วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สรรพคุณข้าวไทยที่น่ารู้

สรรพคุณของการกินข้าวไทย

http://ainews1.com/article467.html

Bookmark and Share

'ข้าวไทยธาตุเหล็กสูง' แก้วิกฤติโรคโลหิตจาง
ราย ละเอียด นักวิชาการ มก. จับมือนักโภชนาการ มหิดลพัฒนา 'ข้าวไทยธาตุเหล็กสูง' 2 พันธุ์ แก้ปัญหาคนไทยขาดธาตุเหล็กเกือบ 50% ทั่วประเทศ เผยผลทดสอบร่างกายดูดซับธาตุเหล็กจากข้าวพันธุ์พิเศษได้เกือบครึ่ง พร้อมแจกจ่ายให้เกษตรกรปลูกอีก 2 ปี หลังทดลองในแปลง สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้จัดงานสัมมนาเผยแพร่ผลงานวิจัยเรื่อง 'นวัตกรรมข้าวไทยธาตุเหล็กสูง' ณ โรงแรมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน วานนี้ (13 ก.ย.)

โดยมี ศ.ดร.อานนท์ บุญยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงานพร้อมกล่าวว่า เรื่องข้าวเป็นเรื่องสำคัญ ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องข้าว การวิจัยเรื่องข้าว จึงเป็นเรื่องที่ตรงกับความต้องการของประเทศ การวิจัยเรื่องนี้จะทำให้ข้าวมีมูลค่าเพิ่ม และมีผลต่อการส่งออกข้าวไทย ไปสู่ตลาดต่างประเทศในที่สุด พร้อมกันนี้ ศ.ดร.อานนท์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ขาดธาตุเหล็กจำนวนมากเกือบถึง 50% ของประชากรทั่วประเทศ

การพัฒนาข้าวธาตุเหล็กสูง จะ ช่วยแก้ปัญหาข้อนี้ได้ จึงเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจยิ่ง โดยไม่เฉพาะแต่กับ วช. หรือนักวิจัยที่พัฒนาผลงานออกมา แต่เป็นความภาคภูมิใจระดับประเทศและระดับโลก จากนั้น รศ.ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ผศ.ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย และผศ.ดร.ศรีวัฒนา ทรงจิตสมบูรณ์ นักโภชนาการจากสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ร่วมบรรยายในหัวข้อ 'เทคโนโลยีชีวภาพในการสร้างพันธุ์ข้าวเพื่อเพิ่มมูลค่าและคุณค่าสูง'

โดย รศ.ดร.อภิชาติ นักวิจัยพันธุ์ข้าวเสริมธาตุเหล็ก เปิดเผยว่า ได้เริ่มทดลองผสมสายพันธุ์ข้าวมากว่า 10 ปีแล้ว จากนั้นเมื่อปี 2545 ได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ จำนวน 12.5 ล้านบาท ศ.ดร.อภิชาติ ได้ร่วมกับนักโภชนาการ มหิดลวิจัยพันธุ์ข้าวธาตุเหล็กสูงสำเร็จ 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ข้าวขาว 313 และพันธุ์ข้าวสีพันธุ์ 1000 โดยพัฒนาจากข้าวพันธุ์หอมนิล และข้าวพันธุ์ 105 ข้าวพันธุ์ใหม่ที่ได้นี้มีธาตุเหล็กสูงถึง 1.6-2.1 มิลลิกรัมต่อข้าว 100 กรัมตามที่ร่างกายต้องการ ซึ่งหากมีผลยืนยันคุณค่าทางโภชนาการตรงตามที่กำหนดไว้ ก็จะนำลงแปลงทดสอบเพาะปลูก และเมื่อพัฒนาจนแจกจ่ายให้เกษตรกรปลูกได้ เชื่อว่าน่าจะให้ผลผลิต 500 กก.ต่อไร่

'ข้าวที่ได้มี 2 สี คือสีขาวและสีม่วง มีกลิ่นหอมคล้ายข้าวหอมมะลิ มีเม็ดสวยงาม และมีคุณภาพการหุงดี นับเป็นครั้งแรกที่มีการสร้างพันธุ์ข้าวสีขาวให้มีธาตุเหล็กสูง นอกจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงข้าวสีม่วงขึ้นใหม่ให้มีปริมาณธาตุเหล็กสูง กว่าข้าวเจ้าหอมนิลเดิม ให้ผลผลิตดี สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ขนมเค้ก' รศ.ดร.อภิชาติ กล่าว

อย่างไรก็ดี รศ.ดร.อภิชาติ ชี้แจงว่า ยังต้องการวิจัยต่อในส่วนของเมล็ดข้าวน่ารับประทานขึ้น คือให้เมล็ดข้าวมีสีขาว เม็ดยาว และมีกลิ่นหอม แต่ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ การขยายผลต่อในการแปรรูปและการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ รวมถึงการประกันราคาข้าว เพื่อให้เกษตรกรปลูก โดยคาดว่าในอีก 2 ปี จึงจะเผยแพร่ต่อได้อย่างแพร่หลาย

ทั้งนี้ หลังจากพัฒนาพันธุ์ข้าวธาตุเหล็กสูงขึ้น ทางสถาบันวิจัยโภชนาการ มหิดล ก็นำไปศึกษาปริมาณการซึมซับธาตุเหล็กของข้าวสายพันธุ์ใหม่ โดยมีการทดลองในกลุ่มตัวอย่าง 17 คน พบว่าหลังจากรับประทานข้าวเสริมธาตุเหล็ก ปรากฏว่า ร่างกายสามารถดูดซับธาตุเหล็กได้ 6-20% สำหรับข้าวเสริมธาตุเหล็กแบบไม่ขัดสี และ 17-50% สำหรับข้าวขัดสี ทั้งนี้ จะต้องรับประทานกับ กับข้าวที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น แกงส้ม น้ำพริกมะขาม เป็นต้น

อย่างไรก็ดี พบว่าข้าวที่ไม่ขัดสีจะมีธาตุเหล็กสูงกว่า ในขณะที่ยังไม่ได้รับประทาน แต่เมื่อนำไปรับประทานจะมีสารขัดขวางการดูดซับธาตุเหล็กด้วย เช่น ไฟเตส และแทนนิน จึงเป็นสาเหตุให้ข้าวที่ขัดสี ให้ธาตุเหล็กที่สูงกว่า นอกจากนี้ ผศ.ดร.รัชนี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการพัฒนาตำรับอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคโลหิตจางขึ้นด้วย

โดยเป็นการนำเอาข้าวธาตุเหล็กสูงมารับ ประทานกับแกงส้ม ซึ่งมีวิตามินซีมากและช่วยส่งเสริมการทำงานของธาตุเหล็กจากข้าวไปใช้ ประโยชน์ได้มากขึ้น ส่วนข้าวไทยธาตุเหล็กสูงนั้น สามารถนำไปประกอบได้ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และอาหารว่าง อาทิ อาหารคาวได้แก่ ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู ข้าวผัดกระเพรา ซูชิ อาหารหวานได้แก่ ขนมเค้ก และของขบเคี้ยว

ส่วนอาหารว่างจะได้แก่ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เป็นต้น ทั้งนี้ ปัญหาโรคโลหิตจากการขาดธาตุเหล็กในประชากร กำลังเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญของประเทศไทย อันจะมีผลต่อการพัฒนาทางร่างกายและสติปัญญา ผู้ที่ขาดธาตุเหล็กจะเป็นผู้ที่มีสมาธิสั้น ร่างกายอ่อนแอ และมีภูมิต้านทานโรคต่ำ

'ในหลวง' ทรงย้ำกินข้าวนึกถึงชาวนา ทรงห่วงคน ไทยลืม..จิตวิญญาณ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวในการแถลงข่าวความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรม ข้าว และการจัดประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทยเฉลิมพระเกียรติว่าวิถีชีวิตของคนไทย มีความผูกพันกับข้าวมาก รวมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง

ขณะ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส เกี่ยวกับข้าวว่าคนไทยต้องมีจิตสำนึกเรื่องข้าว และนำข้าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และทำอย่างไรจึงจะช่วยปกป้องข้าวไทยได้ เพราะสิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้คือ เรื่องจิตสำนึกของผู้บริโภคข้าวที่ลดลงไป เน้นการบริโภคเลียนแบบต่างชาติ ที่กินเร็ว กินด่วน หรือบริโภคข้าวก็เพียงเพื่อให้อิ่มเท่านั้น โดยไม่ได้คำนึงว่า ข้าว คือ จิตวิญญาณ ที่ผ่านกระบวนการผลิต มาจากการลงแรงของชาวนา กลิ่นของข้าวถือว่าหอมที่สุด และหอมแบบธรรมะ ตนเคยทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ทรงโปรดอะไรมากที่สุด

พระองค์ตรัสว่า ข้าว เพราะมีกลิ่นหอม และตรัสด้วยว่า ถ้ารับประทานข้าวขอให้นึกถึงชาวนาด้วย เพราะถ้าไม่มีชาวนา เราก็ไม่มีข้าวกิน
ประธาน มูลนิธิข้าวไทยกล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยส่งออกข้าวเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่ตำแหน่งดังกล่าวกำลังถูกสั่นคลอนจากประเทศคู่แข่งทุกขณะ ดังนั้น จึงต้องหาทางแปรรูปข้าว ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น นำไปแปรรูปเป็นครีมทาหน้า หรืออาหารเสริม เพราะใน เม็ดข้าวมีสารตัวหนึ่งชื่อว่า แกรมม่า ออริซานอล ที่ช่วยให้อารมณ์ดี เพราะฉะนั้นคนไทยทานข้าววันละ 3 มื้อ จึงหัวเราะได้ทั้งวัน แม้ว่าเศรษฐกิจการเมืองไม่ดีก็ตาม

ดร.สุเมธ กล่าวต่ออีกว่า มูลนิธิข้าวไทยในพระ บรมราชูปถัมภ์ จึงได้ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ วท.จัดประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทยเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 80 พรรษา โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับโล่รางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นอกจากนั้น จะมีการพัฒนานวัตกรรมข้าว อาทิ เครื่องสำอางจากข้าวไทย การผลิตข้าวเพื่ออุตสาหกรรมยาและอาหารเสริม ซึ่งจะช่วยต่อยอดข้าวไทยให้แข่งขันกับต่างชาติได้.

ยอดข้าวราชินี ให้ความเป็นหนุ่มสาวกระชุ่มกระชวย ประเทศทั่วโลกที่กินข้าวเจ้าเป็นอาหารหลักต่างรู้กันดี สุดยอดข้าวเจ้าเยี่ยมที่สุดในโลกคือ ข้าวหอมมะลิของไทย กลิ่นหอมนุ่มนวลรสชาติอร่อย และให้คุณค่าทางอาหารสูง แต่ไทยเราไม่พอใจอยู่แค่นั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีบทบาทอย่างสำคัญทำให้ข้าวไทยมีคุณค่าทางอาหารและรสชาติดียิ่งขึ้นไปอีก

โปรดให้ทำการ ค้นคว้าจนได้ยอดข้าว 5 ชนิด เอามาปรุงแต่งแล้วผสมกันตามสัดส่วนที่กำหนด หุงกินได้เลยโดยไม่ต้องซาวข้าว เป็นสุดยอดข้าว ยอดอาหารที่กินแล้วช่วยให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาว ทั้งชะลอความชรา และเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ต้องการควบคุมน้ำหนัก มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ข้าวกล้องปรุงเบญจกระยาทิพย์ 'แรกผลิ 6'

องค์กร ที่มีบทบาทสำคัญในการ ผลิตยอดข้าวสมเด็จพระราชินีออกสู่ท้องตลาด ได้แก่ฟาร์มตัวอย่างมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ บ้านยางน้อย หมู่ที่ 1, 2 กม.ที่ 32 ถนนแจ้งสนิท ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ 210 ไร่ ที่โน่นมีบทบาทอย่างเงียบน่ามหัศจรรย์มากมายหลายประการ ด้วยการค้นคว้าใช้ความรู้ก้าวหน้าที่ค้นพบใหม่มาใช้กับการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง ไม้ดอกไม้ประดับ พืชให้ผลและพืชสวน

นับเป็น สถานที่น่าสนใจที่สุดทั้งการดูงานสาธิตวิธีการใหม่ๆ และการท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจไปพร้อมกัน ใช้พื้นที่เพื่อการเกษตร 118 ไร่ เป็นป่าโปร่ง 64 ไร่ พื้นที่น้ำเพื่อการประมง 14 ไร่ นอกนั้นเป็นถนนและสิ่งก่อสร้าง น่าสังเกตว่าที่นั่นเป็นพื้นที่สูงเหนือระดับน้ำทะเล อุณหภูมิสูงในหน้าแล้งและมีอากาศแห้ง

การ ผลิตยอดข้าวมหัศจรรย์ที่ บริโภคแล้วทำให้ ร่างกายดูเป็นหนุ่มเป็นสาวกระชุ่มกระชวยเป็นหนึ่งในงานทั้งหมดเท่านั้น อยากเอ่ยถึง 2-3 โครงการ ที่น่าสนใจ ได้แก่ พัฒนาการเพาะเห็ดเศรษฐกิจและเห็ดป่า ผลิตพืชมีศักยภาพในระบบหมุนเวียน ปลูกพืชไร่เศรษฐกิจก่อนและหลังการทำนา ปลูกผักปลอดสารพิษราคาดีในตลาด อาทิ ถั่วฝักยาว ผักกวางตุ้ง ผักฮ่องเต้ การเพาะเลี้ยงหมูป่าและโครงการพัฒนาผลิตเส้นไหมไทยพื้นบ้าน ที่ทำครบวงจรตั้งแต่ปลูกต้นหม่อนเอง เลี้ยงไหมเอง สาวไหมเอง รวมตลอดไปถึงการฟอกย้อมจนถึงการทอและการขึ้นลายผ้าจนสำเร็จเป็นผืน

น่าสังเกตมาก ตรงการย้อมผ้าไหม ใช้สีจากพืชเอามาย้อมทั้งหมดแบบโบราณ ถ้าต้องการสีเขียวจะใช้สีทำจากต้นเพกา สีชมพูอมม่วงทำจากลูกหม่อน สีเหลืองทำจากเปลือกต้นก้านขี้เหล็ก และสีเขียวอ่อนทำจากต้นขนุน

เฉพาะ การผลิตยอดข้าวราชินี หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า 'ข้าวกล้องปรุงเบญจกระยาทิพย์ แรกผลิ 6' ทำกันอย่างพิถีพิถันมาก ต้องทำการคัดเลือกพันธุ์ข้าวชั้นยอดทั้ง 5 พันธุ์ จากหลายแหล่งหลายจังหวัด เริ่มด้วยเลือกข้าวขาวดอกมะลิ 105 และข้าวเหนียว กข.6 ของอุบลราชธานี ข้าวหอมกุหลาบที่ปลูกในฟาร์มของศูนย์ศิลปาชีพฯเอง เลือกข้าวหอมแดงจากสุรินทร์ และเลือกยอดข้าวกํ่าชาวเขาเผ่ามูเซอ ที่ปลูกในหุบเขาความสูงเหนือระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 900-1,000 เมตร ในพื้นที่ที่ปราศจากมลภาวะจากเชียงใหม่และเชียงราย

ด้วยเหตุผลข้าว ก่ำมูเซอเป็นข้าวที่มีเส้นใยสูง มีโปรตีนสูง มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ มีวิตามินและแร่ธาตุสูง จุดน่าพิศวงของยอดข้าวราชินี ที่ต้องเพาะเมล็ดข้าวจนงอกเสียก่อนแล้ว จึงนำมาปรุงแต่งเป็นข้าวเบญจกระยาทิพย์ ได้รับการอธิบายในแง่วิชาการการเกษตรว่า เพื่อเป็นการเพิ่มสาร GABA ในเมล็ดข้าวทางชีวะธรรมชาติ ปรับปรุงโครงสร้างคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนให้ย่อยง่ายพร้อมเพิ่มคุณค่าทาง โภชนาการ เพื่อให้มีสาร กลูตามีนออกมาจากเมล็ดข้าวด้วยวิธีธรรมชาติโดยจุลชีพ

เพื่อที่ จะให้จมูกข้าวที่เพาะจนงอก มีโปรตีนมากสามารถสร้างกรดอะมิโน เหมาะแก่การสร้างเอนไซม์เพื่อย่อยอาหาร ไวตามีน แร่ธาตุนำไปเลี้ยงต้นอ่อนที่งอก มีผลสร้างภูมิคุ้มกันทางธรรมชาติของพืช วิธีการดังกล่าวจะทำให้ข้าวมีแทนนินสูงไม่มีรสขม มีปฏิกิริยาที่เป็นกรดเล็กน้อยทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุได้ดีกว่าเดิม เมื่อนำข้าวมาหุงจะทำให้เกาะกันอุ้มน้ำได้ดี ได้ข้าวนุ่มนวลได้ปริมาณข้าวมากขึ้นโดยไม่แฉะ ด้วยวิธีหุงด้วยไฟปานกลางช้าๆ จะได้เมล็ดข้าวสุกสวยงามและไม่แตก ข้าวจะให้รสชาติอร่อยไม่จืดชืด

การ ค้นคว้าวิจัยของนักวิทยาศาสตร์การเกษตรระบุว่า ยอดข้าวราชินีมีผลกระตุ้นฮอร์โมนให้ทำการระดับสม่ำเสมอทำให้ชะลอความชรา สำหรับสตรีมีผลต่อการสมานผิวโดยธรรมชาติ โดยเฉพาะสตรีที่มีปัญหาปวด ท้อง และเป็นสิวในรอบเดือน นอกจากนั้น ยังกระตุ้นให้ตับขับเอนไซม์ขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ควบคุมน้ำตาลในกระแสเลือด ช่วยขับสารแห่งความสุขใจ พอใจ ป้องกันมะเร็งในลำไส้ใหญ่ ลดโอกาสในการเป็นโรคไขข้ออักเสบ ส่งเสริมการหมุนเวียนของโลหิต ลดพลาสมาคอเลสเทอรอลในเลือด และกระตุ้นการขับน้ำดีเข้าสู่ลำไส้เพื่อสลายไขมัน ความจริงคำบรรยายมีคุณสมบัติมากกว่านี้ แต่คัดมาเท่าที่เห็นว่าเป็นที่น่าสนใจเท่านั้น.

กว่าจะมาเป็นยอดข้าว เมื่อได้ยอดข้าว 5 พันธุ์ คัดอย่างดีมาจากหลายจังหวัดแล้ว การจะทำเป็นยอดข้าวราชินีให้ คุณค่าทางอาหารสูง แถมทำให้ร่างกายดูเป็นหนุ่มสาวกระชุ่มกระชวย จะต้องผ่านกรรมวิธีเอาข้าวทั้ง 5 พันธุ์นั้น แช่น้ำไว้ 4-8 ชม. เมื่อแช่ครบตามเวลาแล้ว นำเอาข้าวไปเพาะหนึ่งคืน เพื่อให้รากงอก น่าสังเกตว่าข้าวที่นำเอาไปแช่น้ำ เพื่อเพาะให้รากงอกเป็นข้าวที่ผ่านการสีเป็นข้าวสารเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่แช่ข้าวทั้งที่ยังเป็นข้าวเปลือกอย่าได้สงสัยข้าวที่สีเป็นข้าวสาร แล้ว เอาไปแช่น้ำเพาะให้รากงอกได้ ถ้าหากจมูกข้าวยังอยู่ครบ

ต่อ จาก นั้นนำเอาข้าวไปนึ่ง 5-7 นาที โดยนึ่งด้วยหวดนึ่งข้าวเหนียวแบบชาวบ้านนั่นแหละ ไม่ได้ใช้หม้อนึ่งแบบอุตสาหกรรมใหญ่โตแต่อย่างใด เมื่อเสร็จสิ้นจากขบวนการนำเอาไปนึ่งแล้ว เอาข้าวทั้ง 5 พันธุ์ไปตากแดดเพื่อให้ความชื้นลดลงเหลือเพียง 13-15% ต่อจากนั้นจัดการเก็บยอดข้าวไทยทั้ง 5 พันธุ์ที่ตากแล้ว โดยแยกแต่ละพันธุ์ข้าวไว้จัดส่งไปให้แผนกที่มีหน้าที่จัดการผสมข้าว 5 พันธุ์เข้าด้วยกัน โดยสูตรการผสมข้าวที่ผ่านการคิดค้นมานานจนเกิดความลงตัว จะให้ผลดีด้านโภชนาการมากที่สุด โดยขณะนี้ยังไม่เปิดเผยสูตร

เมื่อผสมยอด ข้าวทั้ง 5 พันธุ์ที่ผ่านขบวนการปรุงแต่งเรียบร้อยแล้ว จัดการบรรจุถุงผ้าดิบถุงละ 1 กก. เพื่อนำออกจำหน่ายเป็นอันเสร็จพิธี การบรรจุนั้นหากเป็นข้าวที่จะต้องส่งไปขายยังต่างประเทศ หรือที่ต่างประเทศสั่งซื้อจะบรรจุในภาชนะบรรจุสุญญากาศ โดยส่วนหนึ่งส่งไปขายที่อังกฤษอย่างสม่ำเสมอ ในไทยเรานั้นข้าวกระยาทิพย์ เมื่อผสมยอดข้าวทั้ง 5 พันธุ์ที่ผ่านขบวนการปรุงแต่งเรียบร้อยแล้ว จัดการบรรจุถุงผ้าดิบถุงละ 1 กก. เพื่อนำออกจำหน่ายเป็นอันเสร็จพิธี
ยอดข้าวสมเด็จพระราชินีมีขายที่สยามพารากอน เดอะมอลล์ และที่ห้างเซ็นทรัลในราคาถุงละ 70 บาท การหุงกินง่ายมาก ไม่ต้องซาวข้าวก่อน เพียงเติมน้ำลงไปแล้วก็หุงกินได้เลย.

คุณสมบัติต่างๆของข้าวไทย

ด้าน ราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าข้าวหอมมะลิเป็นข้าวหนึ่งเดียวของโลก ที่มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติคล้ายกลิ่นใบเตย เป็นสินค้าระดับพรีเมียมเกรด เป็นของหายาก เพราะผลิตได้เพียงปีละ 3 ล้านตัน ในฤดูนาปีเท่านั้น

'ปัจจุบัน เป็นที่นิยมอย่างมากในตลาดการค้าข้าวทั่วโลก เนื่องจากเป็นข้าวคุณภาพดี กลิ่นหอม และรสชาติอร่อย ไม่เหมือนข้าวชนิดใดในโลก เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจ ของไทยที่ก้าวไปไกลสู่ระดับสากล จึงอยากให้คนจดจำตรารับรอง THAI HOM MALI RICE มากยิ่งขึ้น' อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าว
ว่าไปแล้วข้าว หอมมะลิไทย มีหลากหลายสายพันธุ์แบ่งไปตาภูมิประเทศที่ปลูก และลักษณะพิเศษ อย่าง ข้าวหอมมะลิจาก จ.สุรินทร์ จะมีกลิ่นหอม เมล็ดเรียวยาว ขาวเป็นมัน หุงแล้วนุ่มเก็บไว้ได้นาน ส่วนข้าวหอมมะลิของจ.บุรีรัมย์ แดนดินถิ่นภูเขาไฟ ที่ดับสนิทเมื่อ 1 ล้านปีมาแล้ว แต่เมื่อมีการปรับตัวทางสภาพธรรมชาติ และภูมิศาสตร์แล้ว กลับกลายเป็นแร่ธาตุ ต่างๆ หลายชนิด ที่เป็นประโยชน์ต่อพืชต่างๆ และข้าวขาวดอกมะลิที่ปลูกที่นี่ ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดฤดูกาลผลิตปี 2547-2548 มาแล้ว
ส่วน ข้าวหอมมะลิ จ.ยโสธร ก็มีสโลแกนว่า 'มีคุณค่ามากกว่าความหอม' เมื่อหุงสุกแล้วจะเหนียวนุ่ม ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะแปลงข้าวเจ้าและข้าวเหนียวปลูกใกล้กัน จึงทำให้คุณสมบัติบางอย่างของข้าวเหนียวถ่ายทอดออกมา พ่อครัวจากโรงแรมต่างๆ จึงมักเอาข้าวของที่นี่ มาทำเป็นข้าวปั้นญี่ปุ่นแทนข้าวญี่ปุ่น

มา ถึง ข้าวหอมมะลิ จ.ร้อยเอ็ด ที่รู้จักกันดีคือที่ 'ทุ่งกุลาร้องไห้' ถือเป็นความพยายามของเกษตรกรไทย ที่สามารถเอาชนะธรรมชาติ และคัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพดินฟ้าอากาศ จนได้ข้าวที่ขึ้นชื่อแห่งภาคอีสานได้สำเร็จ

ยัง มีข้าวที่ จ.อำนาจเจริญ ที่ได้รับการขนานนามว่า เป็น ดินแดนตำนานข้าวชั้นเยี่ยม ด้วยมีผืนป่าและภูเขาที่มีความสูงต่ำเป็oลูกระนาดลดหลั่นกัน มีแหล่งน้ำย่อยๆ กระจายทุกพื้นที่ มีความชื้นในอากาศที่ถ่ายเทจากแอ่งลำน้ำโขง ที่ชาวบ้านเรียกว่า 'ตะวันอ้อมข้าว' ทำให้ข้าวมีคุณภาพดี มีความบริสุทธิ์สูง เมล็ดข้าวจึงใหญ่ ขาวเป็นมัน หุงแล้วนุ่ม เป็นที่ต้องการของตลาดยุโรป

และ มาถึง เมืองที่รับแสงตะวันก่อนใครในสยาม จ.อุบลราชธานี ข้าวที่นี่จึงออกรวงและเก็บเกี่ยวผลผลิตพร้อมนำออกสู่ตลาดก่อนจังหวัดอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นข้าวที่มีคุณภาพดี เป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภคมากทีเดียว
เห็นความสำคัญและเอกลักษณ์พิเศษของข้าวหอมมะลิแต่ละจังหวัดแล้ว หายสงสัยหรือยังล่ะ ว่า 'ของดี' บ้านเรา ทำไมก้าวไกลไปทั่วโลก

ที่มา หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก วันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2549

ข้าวจัดเป็นอาหารหลักที่มีความสำคัญต่อ ประชากรโลก มีผู้คนกว่าครึ่งโลกที่บริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก ประเทศไทยเรานั้น มีการบริโภคข้าวเป็นอาหารหลักนานมาแล้วจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังการบริโภคข้าว เป็นอาหารหลัก และที่สำคัญนั้นข้าวเป็นแหล่งของอาหารที่ให้พลังงานแก่ชีวิต ในแต่ละวันของคนไทยเรา

กองโภชนาการได้กำหนดข้อปฏิบัติการกินอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดี ของคนไทยขึ้น 9 ข้อ หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า #FF0000 1 ใน 9 ข้อ นั้น มีอยู่ 1 ข้อ ที่กำหนดไว้ว่า กินข้าวเป็นอาหารหลัก และสลับกับอาหารประเภท แป้งเป็นบางมื้อ การกำหนด เช่นนี้ก็เพราะต้องการให้คนไทยเราเห็นความสำคัญของข้าว เพราะปัจจุบันคนไทย เริ่มหันไปกินอาหารอื่นแทนข้าวกันมากขึ้น จึงต้องรณรงค์ให้คนไทยกินข้าวต่อไป

ข้าวจัดเป็นอาหารหลักของ คนทุก ชาติทุกภาษา เพียงแต่ข้าวที่กินนั้นจะต่างชนิดกันออกไปอาจเป็นชนิดที่แปรรูป มาจากข้าวชนิดต่าง ๆ เช่น ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวบาร์เลย์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธัญญพืช พวกข้าว ในประเทศไทยเราจัดข้าวอยู่ในอาหารหลักหมู่ที่ 2 ให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ยังมีพวกวิตามินและ แร่ธาตุ เป็นแหล่งที่ให้กำลังงานและความอบอุ่นจะเห็นได้ว่า คนไทยเราส่วนใหญ่ยังคงบริโภคข้าวทุกวัน บ้างก็กิน ข้าวเจ้า บ้างก็กินข้าวเหนียว ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะนิยมกินข้าวเหนียว มากกว่าข้าวเจ้า ซึ่งก็แล้วแต่ความคุ้นเคยและวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา

ข้าวที่เรากิน จะต้องผ่านกรรมวิธีสีเอาเปลือกข้าวออก ในเมล็ดข้าวจะมีวิตามินแร่ธาตุและสารอาหารที่สำคัญ ต่อร่างกายรวม 20 กว่าชนิด แต่ข้าวที่อุดมไปด้วยคุณค่าของสารอาหารที่กล่าวมานี้ จะต้องผ่านการสีแต่น้อย คือ สีเอาเปลือกข้าวหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า 'แกลบ' ออกโดยที่ยังมีจมูกข้าว และเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวที่เราเรียกว่า 'รำ' อยู่ ซึ่งจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวที่มีคุณค่าอาหารที่มีประโยชน์มาก

ข้าวที่มีคุณค่าอาหารก็คือ ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวนึ่งก่อนสี ข้าวเสริมวิตามิน ข้าวกล้องนั้นในสมัยก่อนเรียกว่า ข้าวซ้อมมือ หรือข้าวแดง ในสมัยก่อนชาวบ้านใช้วิธีตำข้าวกินกันเอง ซึ่งมัก ใช้ครกกระเดื่องตำจึงเรียกข้าวซ้อมมือ ปัจจุบันนี้จะไม่มีให้เห็นโดยทั่วไปแล้ว จะมีก็ในหมู่บ้านที่ห่างไกลตัวเมือง อย่างบนพื้นที่สูงเราจะพบชาวเขานำมาขายข้างทาง ซึ่งถ้าซื้อมาบริโภคจะมีประโยชน์มาก

ในสมัยก่อนนั้นเราจะ เห็นพวกชาวเขา และพวกชาวบ้านจะมีสุขภาพพลานามัยดี หน้าตาไม่ซีดเซียว ไม่ขาดสารอาหาร แต่ในปัจจุบันพบว่า ในบางพื้นที่มีการขาดสารอาหาร ซึ่งสามารถสังเกตได้ว่ามีหน้าตาซีดเซียว ไม่แข็งแรงในบางราย ซึ่งจากการสังเกต และสอบถามดูจะรู้ว่าอาหารการกินของเขาในแต่ละวันนั้นเปลี่ยนไปจากเดิม

เมื่อก่อนเคยกิน ข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ อุดมสมบูรณ์ แต่ปัจจุบันกินข้าวขาว กินอาหารที่แปรรูปมากขึ้น ทำให้ได้สารอาหารไม่เพียงพอ อาหารที่มีวางจำหน่าย ในร้านค้าในหมู่บ้านก็พบว่ามีอาหารสำเร็จรูปเป็นพวกขนมปัง แครกเกอร์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต่าง ๆ มากมาย และขนมใส่สีอีกมากมายหลากหลายชนิด เท่าที่สังเกตดูส่วนประกอบของอาหารสำเร็จรูปเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการ น้อยมาก จะมีก็แต่ในรูปของแป้งและน้ำตาล ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย

ถ้าเทียบกับการ บริโภคข้าวและ อาหารไทย ๆ ในสมัยก่อนจะมีประโยชน์มากกว่า ข้าวกล้องนั้นจะมีโปรตีนประมาณ 7-12 เปอร์เซนต์ ซึ่งก็แล้วแต่พันธุ์ข้าว การขัดสีข้าวกล้องจนมีสีขาวจะทำให้ โปรตีนสูญหายไปประมาณ 30 เปอร์เซนต์ ถ้าดูอย่างผิวเผิน การสูญเสียงเพียงแค่นี้ไม่มากนัก ซึ่งคนส่วนใหญ่กินข้าว กันวันละ 3 มื้อ และข้าวเป็นอาหารที่เรากินมากที่สุด จึงจำเป็นที่เราควรจะคำนึงถึงคุณค่าในสิ่งที่เรากินเข้าไป ข้าวขาวที่กินในแต่ละวันนั้นมีคุณค่าสารอาหารน้อยกว่าข้าวกล้อง ในข้าว กล้อง จะมีคุณค่าแร่ธาตุมากมาย ที่เป็นประโยชน์ ต่อร่างกาย คือมีวิตามินบีรวม ซึ่งจะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการอ่อนเพลีย แขน ขา ไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนังบางชนิด บำรุงสมอง ทำให้เจริญอาหาร
- วิตามินบี 1 ซึ่งถ้ากินพวกข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวนึ่งก่อนสี ข้าวเสริมวิตามินจะช่วยป้องกันโรคเหน็บชาได้
- วิตามินบี 2 ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก คือ จะมีอาการเป็นแปลที่มุมปาก ทั้งสองข้าง ริมฝีปากบวม ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ตาสู้แสงไม่ได้
- แร่ธาตุฟอสฟอรัส ซึ่งจะช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน
- แร่ธาตุแคลเซี่ยม จะช่วยลดอาการเป็นตะคริว
- แร่ธาตุทองแดง จะช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
- แร่ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางและช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
- สารอาหารโปรตีน จะช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอของร่างกาย

แต่เนื่องจาก โปรตีนในข้าวเป็นโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์ การที่จะกินข้าวเพื่อให้ได้คุณค่าของสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ก็โดยการกินร่วม กับ พวกถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ จะทำให้คุณภาพของโปรตีนในข้าวดีขึ้น เช่น จะใช้วิธีการง่าย ๆ โดยการนึ่งหรือหุงข้าวใส่ถั่วเขียว ถั่วลิสงหรือถั่วดำ ถั่วแดง ตามความชอบ ถั่วแต่ละชนิดมีคุณค่าแตกต่างกันไป แต่ก่อนจะนำถั่วมานึ่งหรือหุงรวมกับข้าวนั้นควรล้างแล้วแช่น้ำทิ้ง ไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ในน้ำธรรมดา ถ้าเป็นน้ำร้อนก็แช่ประมาณ 1 ชั่วโมง จะช่วยทำให้เอนไซม์บางตัวในถั่วไม่เกิด ปฏิกริยาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ มีแก๊ซ บางคนคิดว่ากินถั่วแล้วไม่ค่อยย่อย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการทำที่ถูกต้องด้วย ถ้ากินข้าวกล้องผสมถั่วได้เป็นประจำจะทำให้เราได้คุณค่าสารอาหารที่สมบูรณ์ ทดแทนเนื้อสัตว์ได้

นอกจากนี้แล้ว ข้าวกล้องจะมีสารอาหารไขมัน ให้พลังงานแก่ร่างกายโดยเฉพาะน้ำนมในข้าวกล้อง เป็นน้ำมันที่ไม่มี โคเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือด เพราะถ้ามีมากจะก่อให้เกิดโทษต่อร่างกาย
- ในข้าวกล้องมีไนอะซิน เป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่จำเป็นสำหรับสุขภาพของผิวหนัง ลิ้น การทำงานของกระเพาะ อาหารและลำไส้ รวมทั้งการทำงานของระบบประสาท และโรคที่เกิดจากการขาดไนอะซิน ซึ่งมีอาการท้องเสีย ความจำ เสื่อมและอาการโรคผิวหนังหยาบและอักเสบแดง

นอกจากนี้การกินข้าวกล้องจะได้กากอาหารมาก ซึ่งจะทำให้ท้อง ไม่ผูกและยังช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้อีกด้วย
คุณ ค่าอาหารที่กล่าวมา ข้างต้นนี้ มีประโยชน์และจำเป็นที่ร่างกายต้องได้รับ ดังนั้น ในการบริโภคข้าว ควรจะได้ คำนึงถึงในเรื่องนี้เพื่อสุขภาพต่อตัวท่านเองและคนในครอบครัวด้วย จึงมีข้อกำหนดในข้อที่ 2 ดังกล่าวข้างต้นแล้วว่า กินข้าวเป็นอาหารหลักสลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราต้องการให้กินอาหารที่มี ประโยชน์มากกว่าพวกแป้ง ถ้าเป็นพวกข้าวกล้อง หัวเผือก หัวมัน ข้าวโพด จะดีกว่า แต่ในปัจจุบันวิถีชีวิตของคนไทย เปลี่ยนไป จึงมีการอนุโลมให้กินอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ สลับกับข้าวที่เป็นอาหารหลัก ไม่ใช่เป็นพวกแป้งทุกมื้อ จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้

http://www.ricethailand.go.th/rkb/data_007/rice_xx2-07_gatherNew_004.html

สูตรน้ำข้าวกล้องขึ้นโต๊ะเสวย

สำนักพัฒนาข้าว'เผยเคล็ดต้มข้าวอย่าให้เดือดนานเกิน' ชาวบ้านทำกินกันเองได้ง่าย

สูตรน้ำข้าวกล้องงอก ขึ้นโต๊ะเสวย'ในหลวง' ชาวบ้านทำกินเองได้ง่ายราคาไม่แพง สารอาหารครบถ้วน อธิบดีกรมการข้าว รายงาน รมต.เกษตรฯ-ปลัดฯ นำข้าวกล้อง งอกปลุกกระแสให้คนไทยรู้คุณค่าข้าวไทย ช่วยเพิ่มรายได้ชาวนา ขณะที่สำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว เตรียมสาธิตวิธีทำน้ำข้าวกล้องงอก ในวันพุธที่ 7 ม.ค.นี้ เวลา 9 โมงเช้าเป็นต้นไป หลังมีประชาชนสนใจโทรฯ สอบถามจำนวนมาก

ตามที่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เสนอข่าวอันเป็นมหามงคล กรณี 'น้ำข้าวกล้องงอก' ได้ขึ้นโต๊ะเสวยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องจากมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายครบถ้วน จนมีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามถึงสูตร ขั้นตอน และวิธีการทำน้ำข้าวกล้องงอกดังกล่าว ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เป็นจำนวนมากนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ม.ค. นายประเสริฐ โกศัลยวิตร อธิบดีกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่าหลังจากที่กรมการข้าว ได้เผยแพร่เรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเสวยน้ำข้าวกล้องงอก ทำให้มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากโทรศัพท์เข้ามาสอบถามสูตรน้ำ ข้าวกล้องงอก และเดินทางมายังกรมการข้าว เพื่อมาติดต่อซื้อ เมล็ดข้าวกล้องไปปรุงรับประทานเองที่บ้าน ทางกรมฯ จึงตกลงที่จะจัดสาธิตวิธีการทำน้ำข้าวกล้องงอก และสาธิตการหุงข้าวกล้อง ให้นุ่มนวล มีรสชาติอร่อย ในวันพุธที่ 7 ม.ค.นี้ จัดโดยสำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว กรมการข้าว ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพ มหานคร ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

อธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อว่า สำหรับข้าวกล้องงอกที่เป็นวัตถุดิบในการทำน้ำข้าวกล้องงอกนั้นทางกรมฯ มีจำนวนจำกัด ดังนั้นหากประชาชนสนใจที่จะซื้อให้ไปซื้อได้ที่ศูนย์ศิลปาชีพทุกสาขา โดยเฉพาะที่ศูนย์ศิลปาชีพ จ.อุบลราช ธานี จะมีจำหน่ายเป็นจำนวนมาก สำหรับกระแสข่าวนี้ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในเวลาอันรวดเร็ว เพราะคนไทยบริโภคข้าวมาตลอดชีวิต แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าการบริโภคที่ถูกต้องจะต้องทำอย่างไรให้คุณค่า ทางโภชนาการ และสารอาหารยังอยู่ครบถ้วน โดยเฉพาะในข้าวกล้อง ซึ่งยังมีจมูกข้าว และเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวที่เป็นสีน้ำตาลและสีแดง จะให้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างครบถ้วน ทั้งวิตามิน เกลือแร่ และแคลเซียม

นาย ประเสริฐกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในน้ำข้าวกล้องงอกยังมีสิ่งพิเศษในเรื่องของสารกาบ้า และสารต้านอนุมูลอิสระอีกหลายตัว ที่เราไม่ จำเป็นต้องไปหาซื้ออาหารเสริมมารับประทานให้เปลืองเงินเลย และไม่ต้องเสียเวลาสกัดสาร อาหารออกมาให้ยุ่งยากเหมือนกับอาหารเสริม หรือเครื่องดื่มบำรุงร่างกายบางตัวที่โฆษณาสรรพ คุณจนเป็นยาครอบจักรวาล ทั้งนี้ ตนได้รายงานเรื่องนี้ให้กับนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายจรัลธาดา กรรณสูตร ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ทราบแล้ว ทั้งสองท่านดีใจมากที่คนไทยหันมาเห็นคุณค่าของข้าวไทย ถือเป็นการช่วยเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งในเรื่องการแปรรูปข้าวให้เป็นอาหารที่หลากหลายชนิด และยังทำขายได้ด้วยโดยมีกรรมวิธีง่าย ๆ แต่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม ซึ่งเราได้เร่งวิจัยต่อยอดสรรพคุณของข้าวในด้านอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย

ด้าน นางลัดดาวัลย์ กรรณนุช ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว กรมการข้าว เปิดเผยสูตรการทำน้ำข้าวกล้องงอก ที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า เริ่มจาก เมล็ดข้าวกล้องใหม่ 100 กรัม หรือ 1 ขีด จะต้องซาวน้ำล้างเอากรวดทรายออกก่อนหนึ่งครั้ง แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 1 ลิตร ทิ้งไว้ประมาณ 5-6 ชม. ก็จะเกิดเป็นตุ่มงอกสีขาวขึ้นมาที่ เมล็ดข้าวพอมองเห็น จากนั้นให้เอาขึ้นนำมาผึ่งให้แห้ง แล้วนำไปต้มใช้ไฟปานกลางให้เดือด แต่อย่าให้เดือดมาก เพราะถ้าร้อนมากเกินไป สารกาบ้าจะถูกทำลายมาก หากเดือดพอดีให้เคี่ยวไปสัก 15-20 นาที สารกาบ้าจะยังอยู่ในข้าวถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นปริมาณเพียงพอต่อร่างกาย

'เสร็จ แล้วใช้ผ้าขาวบาง หรือกระชอน กรองน้ำออกมาดื่ม เพิ่มรสชาติโดยโรยเกลือป่นให้ออกเค็มเล็กน้อย ก็จะเพิ่มความอร่อย นอกจากความหอมหวานที่มีอยู่ในน้ำข้าวกล้องงอกแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นสูตรที่ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวปทุมธานี ทำเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายในหลวง ทุก 3 วัน

ส่วนการหุงข้าวกล้องให้ได้รสชาติอร่อย นุ่มลิ้น จะต้องนำข้าวกล้องไปแช่น้ำสัก 1 ชั่วโมง ให้เมล็ดข้าวบานออกเล็กน้อยก็หุงได้ทันที จะ ทำให้เมล็ดข้าวนุ่ม น่ารับประทานมาก การหุงข้าว จะทำให้สารกาบ้าถูกทำลายไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ แต่กาบ้าที่เหลือก็เพียงพอต่อร่างกายที่จะต้องบริโภคทุกวันอยู่แล้ว แต่ถ้าเราทำให้ข้าวกล้องงอกขึ้นมา จะเพิ่มคุณค่าสารอาหารขึ้นอีก 10 เท่าเลยทีเดียว' นางลัดดาวัลย์ กล่าวตอนท้าย.
ชะลอความแก่ชรา
นัก วิชาการน้อมรับพระราชเสาวนีย์ ระบุสรรพคุณน้ำข้าวกล้องงอกดีกว่าเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ช่วยระบบย่อยอาหาร ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ไม่ให้แก่ก่อนวัย เผยทำกินเองในครอบครัวได้ง่าย หรือจะทำขายก็ไม่สงวนสิทธิ์ เตรียมอบรมให้ประชาชนฟรี ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ ในน้ำข้าวกล้องงอก มีสาร 'กาบ้า' จำนวนมาก มีสรรพคุณบำรุงประสาท และควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดั[

ตามที่อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยข้อ มูลอันเป็นสิริมงคลแก่พสกนิกรชาวไทย กรณีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ให้นำเครื่องดื่มน้ำข้าวกล้องงอก ที่วิจัยและผลิตโดยศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี เข้าพระราช วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทุก ๆ 3 วัน เพื่อนำขึ้นโต๊ะเสวย ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากทรงทราบว่าในน้ำข้าวกล้องงอกมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ครบถ้วน โดยนอกจากล้นเกล้าฯ ทั้ง 2 พระองค์จะโปรดแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก็โปรดด้วยเช่นกัน

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 3 ม.ค. นายประเสริฐ โกศัลยวิตร อธิบดีกรมการข้าว กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสรรพคุณของน้ำข้าวกล้อง งอก ว่า จากการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญของ กรมการข้าว ได้ผลชัดเจนว่ามีสรรพคุณดีกว่าเครื่องดื่มบำรุงกำลัง และเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย ราคาแพงที่มีขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดอย่างแน่นอน

เพราะสารอาหารในข้าวที่งอกใหม่จะมี สิ่งมีประโยชน์ที่มีคุณค่าต่อร่างกายหลาย ชนิด เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ เพราะสารอาหารที่เกิดจากข้าวกล้องงอกจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย รวมทั้งฟื้นฟูสภาพเซลล์และชะลอการเสื่อมสภาพของ เซลล์ ทั้งนี้ยังมีสารอาหารอีกหลายตัวที่กรมการข้าวกำลังวิเคราะห์หาค่าความเป็น ประโยชน์ด้านสารอาหารต่อร่างกาย

อธิบดีกรมการข้าว กล่าวอีกว่าสำหรับคุณค่าทางสารอาหารเมื่อรับประทานน้ำข้าวกล้องงอก เป็นประจำทุกวัน จะช่วยในระบบย่อยอาหารของร่างกายให้ดีขึ้นด้วย ดูดซึมสารอาหารเข้าร่างกายได้เป็นอย่างดี แล้วนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด จะเห็นได้ว่าคนในสมัยโบราณนำน้ำข้าวไปเลี้ยงลูก ทำให้เด็กเจริญเติบโตได้ดีและเป็นของหาง่าย ทำได้เองไม่ต้องซื้อหาให้เสียเงินตราต่างประเทศ

'ทุกวันนี้คน ไทยมองแต่อาหารเสริมจากต่างประเทศ ทั้งที่อาหารเสริมบางอย่างไม่เหมาะกับคนไทย รับประทานเข้าไปก็ถูกร่างกายขับออกมา บางอย่างยังสะสมในร่างกายอีกด้วย จริง ๆ แล้ว ของที่เป็นประโยชน์มีสรรพคุณครบถ้วนอยู่รอบตัวเรา และทำได้ง่าย ๆ ซึ่งพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เสวยข้าวกล้องตลอด

เพราะมี คุณค่าทางสารอาหารมากกว่าข้าวขัดขาวที่คนส่วนใหญ่รับประทาน คนไทยสมัยโบราณจะรับประทานข้าวซ้อมมือ หรือข้าวที่ตำด้วยครก สารอาหารก็ยังคงอยู่ไม่ถูกขัดทิ้งไปหมด คนไทยสมัยก่อนจึงมีสุขภาพดีกว่าคนสมัยนี้ ปัจจุบันคนไทยกินแต่ข้าวขัดจนขาว เพราะโรงสีใช้หินขัดทำให้สารอาหารถูกขัดทิ้งไป เป็นรำข้าวจนหมด' นายประเสริฐ กล่าว

อธิบดี กรมการข้าวกล่าวอีกว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับสั่งให้กรมการข้าวนำผลิตภัณฑ์ข้าวต่าง ๆ ที่เราคิดค้นขึ้นมา จัดทำเป็นกระเช้าของขวัญเพื่อส่งความสุขในเทศกาลปีใหม่นี้ด้วย เพราะพระองค์ทรงต้องการให้คนไทยหันมาเห็นคุณค่าของข้าวไทย และตระหนักถึงสิ่งที่ได้มาจากธรรมชาติ ประโยชน์ก็จะกลับมาสู่คนไทย และเกษตรกรของเราเอง

ช่วงปีใหม่นี้ทางกรมการข้าวจึงได้จัด ทำกระเช้าของขวัญจากผลิตภัณฑ์ข้าวหลาก หลายชนิดไว้จำหน่าย อาทิ ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้องน้ำมันรำข้าว ครีมทามือ ครีมทาผิว เป็นต้น

ด้าน น.ส.อรพิน วัฒเนสก์ รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านปรับปรุงพันธุ์ข้าว 9 เปิดเผยว่าในน้ำข้าวกล้องงอก ต่อ 120 มิลลิลิตร มีสารอาหารมากมาย ได้แก่ โปรตีน 0.49 กรัม ไขมัน 2.05 กรัม ความชื้น 88.21 กรัม เถ้า (สารอาหารจำพวกหนึ่งช่วยย่อยอาหาร) 0.06 กรัม คาร์โบไฮเดรต 1.42 กรัม และกาบ้า 4.62 กรัม โดยสรรพคุณของ 'กาบ้า' จะช่วยแก้โรคอัลไซ เมอร์ บำรุงระบบประสาท ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ และยังช่วยชะลอความชราและฟื้นฟูสภาพผิวได้ดี

นอกจากนี้ยังมีเพอร์ ริคาบ คือเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว ที่เห็นเป็นสีน้ำตาลแดง มีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากอีกด้วย “สารกาบ้ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก ดีกว่าเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย และอาหารเสริมราคาแพง หลายชนิด สำหรับสูตรการทำน้ำข้าวกล้องงอกขณะนี้เราได้จดอนุสิทธิบัตรไว้แล้ว ซึ่งศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานีจะอบรมให้แม่บ้าน และเกษตรกรผู้สนใจไปทำบริโภคเอง หรือจะผลิตขายเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือนก็ได้ ไม่คิดค่าใช้จ่าย ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวไทยได้อีกทางหนึ่ง

ด้าน นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เปิดเผยว่า ข้าวกล้อง หรือเมล็ดธัญพืชที่กำลังงอกเป็นตุ่ม จะมีสารกาบ้าเยอะ โดยสารกาบ้าจะช่วยเติมสารสื่อประสาทในสมอง ช่วยให้สมองแล่นได้ไวกว่าเดิม ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ อย่างไรก็ตามเมล็ดข้าว ที่กำลังงอก มีข้อเสียที่ต้องระวัง คือ เมล็ดอะไรก็ตามที่กำลังงอก หรือยอดผักต่าง ๆ ที่กำลังงอก จะมีสารยูริคเยอะ ดังนั้นคนที่เป็น โรคเกาต์อาจจะต้องระวังสักนิด แต่ถ้าไม่เป็นโรคเกาต์ก็รับประทานได้ตามปกติ ข้อควรระวังอีกอย่าง คือ กาบ้าไม่ควรจะผ่านความร้อน เพราะ กาบ้าจะไวต่อความร้อน อาจจะสลายไปได้

'การ รับประทานข้าวกล้องมี ประโยชน์ต่อร่างกายมาก เพราะข้าวกล้องเป็นเหมือนข้าวขาวที่มีไฟเบอร์ หรือเส้นใย หรือกาก โดยกากของมันจะช่วยให้น้ำตาลในข้าวไม่ดูดซึมเร็วเกินไป ยกตัวอย่าง ถ้าเรากินข้าวขาวทั่วไปประมาณ 3 นาที ข้าวจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล รู้สึกหวานในปาก แต่ข้าวกล้องอมประมาณ 10 นาทียังไม่หวานเลย เพราะมีไฟเบอร์อยู่ ซึ่งจะช่วยยับยั้งไม่ให้น้ำตาลดูดซึมเร็ว

นอกจากนี้ ข้าวกล้องยังมีวิตามินบีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นบี 1 บี 2 บี 6 หรือบี 12 โดยเฉพาะตัวเปลือกที่ยังไม่สี ดังนั้นควรจะรับประทานบ่อย ๆ แต่มีข้อเสียบ้างคือฝืดคอ เพราะมีกากเยอะ ถ้าเพิ่งเริ่มรับประทานอาจจะผสมกับข้าวขาวทั่วไปก่อนก็ได้' นพ.กฤษดา กล่าวตอนท้าย.

ที่มา.....เทคโนโลยีการเกษตร



การค้นพบข้าวโภชนาการสูง

ข้าว เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทยมายาวนาน ดังจะเห็นได้จากวัฒนธรรมของไทยและแนวความคิดที่มักมีข้าวหรือส่วนประกอบของ ข้าวเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในทางโภชนาการข้าวเป็นธัญพืช 1 ใน 3 ชนิด ที่คนบริโภคมากที่สุด และธัญพืชชนิดเดียวที่คนนิยมบริโภค 'เมล็ดข้าว' โดยตรง ดังนั้น 'เมล็ดข้าว' จึงเปรียบเสมือน 'เม็ดยา' ที่ทุกคนยินดีรับประทาน ดังนั้น จึงมีความพยายามในการปรับปรุงโภชนาการที่เกี่ยวกับข้าวและพันธุ์ข้าวเพื่อ ให้ประสบผลสำเร็จอย่างจริงจัง

รศ.ดร.อภิชาติ ได้เป็นผู้นำในงานด้านการปรับปรุงพันธุ์ข้าว ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างพันธุ์ข้าวธาตุเหล็กสูงระดับ 1.6-2.1 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม ที่มีลักษณะดีและคุณภาพการหุงต้มดีและมีกลิ่นหอมจากคู่ผสมข้าวขาวดอกมะลิ 105 กับข้าวเจ้าหอมนิล พันธุ์บริสุทธิ์เหล่านี้มีทั้งสีขาวและสีม่วง นับเป็นครั้งแรกที่มีการสร้างพันธุ์ข้าวสีขาวให้มีความหนาแน่นของธาตุเหล็ก สูงถึง 2.1 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม ที่มีกลิ่นหอมคล้ายข้าวหอมมะลิได้สำเร็จ ได้มีการปรับปรุงข้าวสีม่วงขึ้นมาใหม่เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีปริมาณ ธาตุเหล็กสูงกว่าข้าวหอมนิลเดิม และให้ผลผลิตดีอีกด้วย นอกจากนี้ ข้าวสีม่วงยังมีข้อได้เปรียบจากข้าวพันธุ์อื่นๆ คือมีปริมาณสารเบต้าแคโรทีนสูงที่สุดและมีวิตามินอี ซึ่งน่าจะมีผลให้ข้าวสีม่วงนี้มีความสามารถในการกำจัดสารอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่มีมาก โดยเฉพาะเมื่อศึกษาเฉพาะรำพบว่า อัตราการยับยั้งอนุมูลอิสระสูงกว่าน้ำองุ่นสีม่วง 100% และน้ำส้ม 100% อีกด้วย

ด้านโภชนาการ ได้มีการพัฒนาการตรวจความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหาร การวิเคราะห์ทางด้านโภชนาการในสายพันธุ์ข้าวจำนวนมาก พบว่า มีข้าวที่มีลักษณะพิเศษเป็นที่ต้องการทั้งในพันธุ์ข้าวสีขาวและสีม่วงเพื่อ ทำการทดสอบกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน พบว่า ในข้าวกล้องของข้าวทั้งสองนี้มีค่า glycemic index ต่ำกว่า glucose อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติแสดงให้เห็นว่าในผู้ป่วยเบาหวาน ชนิดที่ 2 polysaccharides หรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (complex carbohydrate) ของข้าวช่วยชะลอกระบวนการย่อยและดูดซึมของอาหารได้เมื่อเปรียบเทียบกับ น้ำตาลเชิงเดี่ยว (glucose) มีการสูญเสียคุณค่าทางอาหารนับเป็นประเด็นที่สำคัญทางโภชนาการ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับสารอาหารจากข้าวที่มีโภชนาการสูง ดังนั้น ความเข้าใจถึงสาเหตุของความสูญเสียจะนำไปสู่แนวทางป้องกันที่เหมาะสม เพื่อให้ธาตุอาหารถึงผู้บริโภคมากที่สุด สารอาหารส่วนใหญ่สูญเสียไปกับการขัดสี เนื่องจากแหล่งสะสมสารอาหารที่สำคัญอยู่ในส่วนของ pericarp นอกจากนี้ กระบวนการหุงต้มก็ทำให้เกิดการสูญเสียสารอาหารที่ไวต่อความร้อน ได้แก่ เบต้าแคโรทีนและวิตามินอี การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดการสูญเสียสารอาหารจากการขัดสี จึงได้เปรียบเทียบวิธีการนำข้าวไปแช่น้ำเพื่อกระตุ้นให้มีการกระจายของสาร อาหารเข้าไปภายในเนื้อแป้งก่อนการขัดสี ทำให้พบว่า ปริมาณสารบางตัว เช่น เบต้าแคโรทีนและวิตามินอีในข้าวขัดที่ผ่านการแช่น้ำเพิ่มสูงขึ้น

ผลงานวิจัยเด่นของ รศ.ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร

- การค้นพบยีนความหอมและศึกษาหน้าที่ของยีนในการกำหนดปริมาณสารหอมในข้าว ขณะนี้อยู่ระหว่างจดสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์

- การค้นพบยีนที่ทำให้ข้าวทนน้ำท่วมและนำมาใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ให้สามารถทนน้ำท่วมได้นานกว่า 2 สัปดาห์ และเป็นผู้ที่ทำให้งานวิจัยด้านกระบวนการที่ทำให้ข้าวทนน้ำท่วมเกิดขึ้น อย่างต่อเนื่อง

- การค้นพบพันธุ์ข้าวที่มีโภชนาการสูง มีกลิ่นหอม มีคุณภาพหุงต้มดี เช่น ข้าวธาตุเหล็กสูงที่มีสีขาวและหอมแบบข้าวขาวดอกมะลิ 105 ข้าวสีม่วงดำที่มีการสะสมสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงสุด และมี Provitamin A ในระดับสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ข้าวเหล่านี้มี Glycemic index อยู่ในระดับที่ต่ำปานกลาง พันธุ์ข้าวเหล่านี้เป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการแปรรูปและผู้ผลิตข้าว คุณภาพสูงพิเศษ

เดลินิวส์ วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552 เวลา 20:25

ข้าว เป็นอาหารหลักของคนไทย และเป็นสินค้าส่งออกอันดับต้น ๆ ของประเทศ ที่สามารถนำเม็ดเงินเข้าประเทศได้ปีละไม่น้อยเลยทีเดียว นักวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ศึกษาสายพันธุ์ข้าวและพัฒนากรรมวิธีการผลิตข้าวกล้องงอกที่มี GABA สูง เพื่อเพิ่มมูลค่า เพิ่มประโยชน์ของข้าวกล้อง โดยพบว่า ข้าวกล้องมีสารอาหารมากกว่าข้าวทั่ว ๆ ไป สามารถป้องกันโรค และควบคุมน้ำหนักได้

พัชรี ตั้งตระกูล นักวิจัยจากสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า คณะวิจัยได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้ศึกษาเรื่องการใช้ ประโยชน์จากคัพภะข้าวและข้าวกล้องงอกเป็นอาหารสุขภาพเพื่อเพิ่มมูลค่า เพื่อศึกษาปัจจัยการผลิต สายพันธุ์ข้าวและสภาวะการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม

พัฒนากรรมวิธีการผลิต ข้าวกล้องงอกที่มี GABA สูง (GABA enriched-rice) จากข้าวสายพันธุ์ต่าง ๆ และนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ จากผลงานวิจัยพบว่า ในคัพภะข้าวเจ้า มี GABA สูงสุดในข้าวขาวดอกมะลิ 105 (37.2 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม) ส่วนข้าวเหนียวพบ GABA สูงสุดในพันธุ์ R258 (72.8 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม)

ข้าวกล้องงอกจาก พันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 จะให้ปริมาณ GABA สูงกว่าข้าวพันธุ์อื่น ซึ่งจากการศึกษาประโยชน์ของข้าวกล้องเพื่อการบริโภคที่ได้ประโยชน์สูงสุดทำ ให้ทราบว่า “ข้าวกล้อง” ซึ่งประกอบด้วยจมูกข้าว มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจำนวนมาก อาทิ ใยอาหาร กรดไฟติก (Phytic acid) กรดเฟรูลิก (Ferulic acid) วิตามินบีและอี และ GABA (กรดแกมมา แอมิโนบิวทิริก) ซึ่งช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน และช่วยในการควบคุมน้ำหนักตัว

การบริโภคข้าวกล้อง ให้ได้ ประโยชน์สูงสุดจะต้องนำข้าวกล้องมาแช่น้ำทำให้งอกเสียก่อน ซึ่งข้าวกล้องงอกนี้จะมีสารอาหารเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ GABA ที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง GABA เป็นกรดอะมิโน ชนิดหนึ่งที่ผลิตจากกระบวนการ decarboxylation ของกรดกลูตามิก กรดชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในการเป็น neurotransmitter ในระบบประสาทส่วนกลาง มีการใช้กรดในการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาทหลายโรค เช่น โรควิตกกังวล นอนไม่หลับ โรคลมชัก และยังมีคุณสมบัติในการลดความดันโลหิตด้วย

คน ไทยและผู้บริโภคข้าวเป็นอาหารหลักมักนิยมรับประทานข้าวหุงสุกจากข้าวทั้ง เมล็ด และ ผู้ที่รับประทานข้าวกล้องเป็นประจำก็ยังมีน้อย เนื่องจากข้าวกล้องมีเนื้อสัมผัสที่แข็ง แต่หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาบริโภคข้าวกล้องแทนข้าวขาวได้ก็จะทำให้ร่าง กายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น ซึ่งการนำข้าวกล้องมาแช่น้ำให้งอก นอกจากจะได้ประโยชน์จากปริมาณ GABA ที่สูงขึ้นแล้ว ยังทำให้ข้าวกล้องมีเนื้อสัมผัสที่อ่อนนุ่มรับประทานได้ง่าย สำหรับข้าวกล้องที่สามารถนำมาแช่น้ำให้เกิดการงอกได้นั้น จะต้องเป็นข้าวกล้องที่ผ่านการกะเทาะเปลือกมาไม่นานเกิน 2 สัปดาห์ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยครั้งนี้

คณะวิจัยสามารถผลิต ข้าวกล้องงอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่ม GABA ให้สูงขึ้น พร้อมนำมาหุงต้มเพื่อรับประทานได้ทันที และนอกจากนั้นยังสามารถนำมาพัฒนา เป็นแป้งข้าวกล้องงอกและผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพ ได้หลายชนิด เช่น อาหารว่าง ขนมขบเคี้ยว ซุป เครื่องดื่ม ฯลฯ

ปริมาณ GABA ที่วิเคราะห์ได้ในข้าว กล้องของข้าวเจ้าพบสูงสุดในข้าวกล้องพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 เมื่อนำเมล็ดข้าวกล้องขาวดอกมะลิ 105 ที่สมบูรณ์ ผ่านการคัดเลือกและทำความสะอาด นำมาแช่น้ำให้เกิดการงอกโดยควบคุมอุณหภูมิ เป็นเวลานาน 36-72 ชั่วโมง โดยมีการเปลี่ยนน้ำเป็นระยะ เพื่อป้องกันการเกิดการหมัก และการปนเปื้อนจากเชื้อจุลินทรีย์ จากนั้นใช้น้ำร้อน เพื่อหยุดปฏิกิริยาการงอก

นำมาทำให้แห้งที่ อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส เพื่อลดความชื้นของข้าวลงเหลือประมาณ 12-13% จะได้ข้าวกล้องงอกที่มีปริมาณ GABA สูงขึ้นเป็น 15.2-19.5 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งสูงกว่าข้าวกล้องปกติ และขณะนี้คณะวิจัยกำลังดำเนินการขยายผลงานวิจัยสู่ระดับต้นแบบการผลิต ข้าวกล้องงอกโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร และกลุ่มธุรกิจข้าวส่งออก เพื่อร่วมพัฒนาสายการผลิตต้นแบบสำหรับผลิตผลิตภัณฑ์ GABA-Rice

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้าวไทย ยกระดับอุตสาหกรรมข้าวของประเทศไทย และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับต่างประเทศ โดยโรงงานและเครื่องจักรต้นแบบจะอยู่ที่สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได้วางแผนการผลิตข้าวงอกและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องเพื่อการค้าต่อไป

สำหรับ เกษตรกรและผู้สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทรศัพท์ 0-2942-8629.

เชิญทุกท่าน ร่วมสร้างบุญกุศลด้วยกัน ....ส่งต่อข่าวสารแก่เพื่อนๆ มีโอกาสชมจิ๊กซอร์ต่างๆ สำหรับนักค้นหาสาระชีวิตต่อภาพของตนเอง ทั้ง ด้านโลกียะและโลกุตระ ที่ ainews1.com จัดไว้บริการให้แก่เพื่อนๆทุกเพศวัยทุกคน ฟรี นอกเหนือจากส่วนขยายธุรกิจ ที่ลิงค์ /article385.html Bookmark and Share

1 ความคิดเห็น:

  1. เมใืท่อใช้เวลาศึกษาข้อมูลก้าวหน้าใหม่ๆ ของนักค้นคว้าทั้งหลาย จะบอกว่าคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป และนำมาใช้กับตัวเราและครอบครัว และเพื่อนๆได้ทันที ในราคาประหยัด

    หากเราเข้าใจ สิ่งเหล่านี้อย่างถ่องแท้ จะประหยัดเงินตราการซื้ออาหารเสริมราคาแพงไปมากทีเดียว มารับธาตุอาหารโดยตรงจากธรรมชาติสดใหม่ดีกว่าหลายเด้ง

    ตอบลบ