วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554

เลือกทำเลปลอดภัย 7 ขั้นตอน

Determine Your Safe Locations - 7 Steps

http://www.ainews1.com/article568.html

คำแนะนำของคุณ แนนซี่ ลีเดอร์ ที่เผยแพร่ความรู้แก่ผู้สนใจสิ่งแวดล้อม ร่วมกับทีมงาน Zetas มาตั้งแต่ 1995 เมื่อ 11 ก.ย. 2010 มีดังนี้

ขั้นที่ 1

ค้นหาทำเลที่เราต้องการ ในหมวดทำเลที่ปลอดภัย จากเว็บไซท์ Zetatalk.com ไม่เฉพาะแต่ในประเทศของตน จังหวัดต่างๆที่ใกล้เคียงด้วย อาจไม่พบเมืองที่เราเจาะจง ดูทำเล แม่น้ำภูเขาต่างๆที่คาดว่าจะถูกน้ำท่วมชั่วคราว และถูกน้ำท่วมถาวร ซึ่งจะเป็นช่องทางนำไปสู่เมืองที่จะเลือก ทางเว็บไซท์ไม่ได้ให้คำแนะนำไว้ทุกแห่ง คงบอกเป็นหลักเกณฑ์ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ท่านได้ลงมือเลือกได้เอง....ลองแวะที่ลิงค์นี้

ขั้นที่ 2

ค้นหาทำเลส่วนตัวของเราจาก สภาพอากาศ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากโลกได้ย้ายขั้วแล้ว ทำได้รวดเร็วจากแผนที่ เช่นกูเกิลเอิร์ท ซึ่งให้บริการฟรี พิมพ์ออกมา และนำมาตัดต่อในตำแหน่งที่เราเลือก ถ้าหากไปตรงกับตำแหน่งขั้วโลกใหม่ เราจะได้เลือกเสียใหม่ พร้อมกับเลือกถนนหนทางที่จะเอาไว้เดินทางไปสู่พื้นที่เป้าหมาย หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่จะเกิดการจมลงไป เช่นประเทศอินเดีย หรือออสเตรเลียฝั่งตะวันตก 2 ใน 3 ของความยาวแนวนอนเดิมที่จะจมอยู่ใต้คลื่นระหว่างโลกย้ายขั้ว

ขั้นที่ 3

ค้นหาระดับความสูงเหนือน้ำทะเล จากแผนที่ตรวจระดับคอนทัวร์ในแผนที่กูเกิล

http://www.google.com/earth/index.html ใน Google Maps ในเวอร์ชั่นที่แสดงสีของระดับพื้นดิน เราแนะนำให้ออกห่างจากชายทะเลอย่างน้อย 135 กิโลเมตร และในระดับความสูง 100 เมตรจากระดับน้ำทะเล (แนนซี่แนะนำไว้ ที่ระดับ 61 ม.) หลบจากคลื่นทะเลในระหว่างโลกย้ายขั้ว และควรจะพิจารณาพื้นที่ระดับเหนือ 206 เมตรเอาไว้ด้วย ซึ่งจะเป็นระดับน้ำทะเลขึ้นเต็มที่ หลังจากโลกย้ายขั้วแล้ว 2 ปี ตรวจดูได้คร่าวๆจากแผนที่ ที่คุณแนนซี่จัดทำขึ้น

ขั้นที่ 4

ตรวจสอบพื้นที่ที่เลือกว่าจะอยู่ในโซนที่เปลือกโลกจะลอยขึ้นหรือจมลง อินเดียและออสเตรเลียตะวันตก จะตกอยู่ใต้คลื่นในเวลาที่โลกย้ายขั้ว และถูกกดลงก่อนการย้ายขั้ว ญี่ปุ่นลอยขึ้น 150 ฟุต นิวซีแลนด์ลอยขึ้น 500 ฟุต และออสเตรเลียตะวันออกลอยขึ้นด้วย สเปนจมลง 50 ฟุต ภาคตะวันตกของอังกฤษจมลง 150 ฟุต นิว อิงแลนด์ลอยขึ้น 450 ฟุต เนื่องจากท้องทะเลยกตัว ฟลอริดาจมลง 150 และเกาะแวนคูเวอร์ลอยขึ้น 100 ฟุต

ขั้นที่ 5

ค้นหาแม่น้ำที่จะเกิดการขยายตัว ระหว่างย้ายขั้วและเกิดน้ำหลาก แม่น้ำทั้งหมดจะมีน้ำล้นตลิ่งเกิดขึ้นตอนก่อนโลกพลิกขั้ว ให้คาดการณ์ล่วงหน้าเอาไว้ ถึงแม้ท้องน้ำจะลาดชันก็ตาม ถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่สูงกว่า 200 ฟุตแล้วก็ตาม น้ำก้ยังจะล้นฝั่งอยู่ดี เมื่อแม่น้ำระบายไม่ทัน น้ำก็จะเอ่อล้นมายังลำธารสาขาต่างๆด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก http://www.zetatalk.com/poleshft/p103.htm กระแสน้ำเชี่ยวจะกัดเซาะฐานรากอาคารต่างๆให้ทรุดเอียงลงได้ ให้เลือกทำเลพ้นบริเวณน้ำหลาก และชั้นดินไมไหลเมื่ออิ่มน้ำ ผู้อยู่ใกล้หน้าผาริมทะเล ต้องระวังคลื่นกระฉอกขึ้นฝั่ง หรือไหลทะลักมาตามช่องน้ำไหล โดยเฉพาะชายฝั่งแปซิฟิคเป็นต้น ให้คิดถึงสภาพดังกล่าวเอาไว้ด้วย

ขั้นที่ 6

ตรวจสอบแหล่งภูเขาไฟ หรือทำเลที่ภูเขายังใหม่อยู่ ซึ่งจะมีเหลี่ยมหินแหลมคม ให้ถอยห่างในรัศมี 135 กิโลเมตรจากปล่องภูเขาไฟ และภูเขาไฟต่างๆที่มีอายุ 10,000 ปีขึ้นไป เช่นแถบเยล โล่สโตนส์ ซึ่งจะไม่เกิดภูเขาไฟร้ายแรง ให้ตรวจแนวทางลมพัดไปทางตะวันตกด้วย หลีกเลี่ยงเลือกมำเลใต้ลมจากเถ้าถ่านภูเขาไฟ ให้เลือกทางด้านทิศเหนือใต้เก่า ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นทิศตะวันออก-ตก หลังโลกพลิกขั้ว พายุเพลิงซึ่งไม่เกิดมากนัก มักจะเกิดในบริเวณใกล้ภูเขาไฟ ในชั่วโมงที่โลกย้ายแกน เราแนะนำ ถ้าบริเวณนั้นจะเป็นภูเขาใหม่ ให้ระวังภัยจากหินหล่นกระจัดกระจาย โดยสังเกตลักษณะของชั้นหินที่แหลมคม ส่วนภูเขแอลป์เป้นลักษณะภูเขาเก่า หินจะมีลักษณะกลมมน ซึ่งปลอดภัยกว่า เทือกเขาเซียร่า และเทือกเขาแอนดีส เป็นภูเขาเพิ่งเกิดใหม่

ขั้นที่ 7

ทำความแน่ใจก่อนที่จะเปลี่ยนเส้นทางอพยพ จะปลอดภัยกว่าด้วยการหลีกเลี่ยงคลื่น และโครงสร้างต่างๆที่จะพังลงมาทับเอา หากจำเป็นต้องย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่จะเกิดน้ำท่วมใน 2 ปีหลังโลกย้ายแกน เช่นทางไซบีเรีย ซึ่งเป็นที่ราบต่ำ จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันเป็นบริเวณกว้าง ผู้มีถิ่นอาศัยในแถบนี้ต้องเตรียมเคลื่อนที่อพยพด้วยเท้า หรือทางเรือ ผู้ที่รอดชีวิตในโซนใกล้ขั้วโลกเหนือใหม่ ในพื้นที่ส่วนโหนกของบาซิลที่เคยยื่นออกมาในแอตแลนติก อาจมุ่งอพยพไปทางเทือกเขาแอนดีส และพื้นที่อบอุ่นที่ตนเองเคยชินเอาไว้ล่วงหน้า หนทางอพยพคาดการณ์ไว้ได้ว่าจะมีผู้คนหนาแน่น ดังนั้นให้เลือกทำเลที่คาดว่าจะไม่มีผู้คนหนาแน่นนัก

(ทั้งเจ็ดขั้นตอน เป็นไกด์ไลน์กว้างๆให้ท่านผู้อ่านเกิดแนวความคิด ส่วนผู้ปฏิบัติธรรมอยู่แต่เดิมคงไม่ยากที่จะอธิษฐาน ขอแนวทางกำหนดที่หมายที่ปลอดภัย และเหมาะสมสำหรับตัวท่านและครอบครัว และมิตรบริวาร หรือผู้ที่มีบารมีธรรมเนื่องกันมา พลังกรรมบวกจะชักนำเตรียมสถานที่ไปอาศัยหลบภัย ในทำเลที่ปลอดภัยร่วมกัน โดยอัตโนมัติ

ท่านเพียงติดตามพิจารณาเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามา ให้ตัวท่านไตร่ตรองเลือกสรรเอาเอง หรืออาจได้รับคำแนะนำตักเตือนว่า ทำเลที่ท่านอาจเห็นว่าน่าอพยพไปอยู่หลบภัยแต่แรก ว่าไม่ปลอดภัยเพียงพอ หากท่านได้รับคำแนะนำจากท่านผู้รู้มีญาณทัสสนะ ก็นำกลับไปพิจารณาทบทวนแก้ไขเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยท่านเหล่านี้เพียงแต่บอกให้เราทราบเท่านั้น ไม่บังคับหรือบ่งชี้ชัดว่าต้องทำ มันขึ้นกับผู้รับฟังเอง ท่านบอกแล้วท่านก็วางเฉย ไม่มาวิตกทุกข์ร้อนด้วย หากเชื่อฟังก็จะเกิดผลดีภายหน้ากับผู้ที่มีโอกาสได้รับฟัง ท่านก็โมทนาสาธุด้วยเท่านั้น

สำหรับประเทศไทย มีพื้นที่ทางภาคเหนือ และอิสานตอนบนติดกับภาคเหนือ ดูจะมีภาษีกว่าที่อื่น แต่บางพื้นที่เช่นในอ่างที่ราบ ที่ตั้งตัวเมืองเชียงใหม่ เปลือกโลกจะทรุดตัว และเกิดน้ำท่วม ต้องย้ายไปที่ราบเชิงเขามากหน่อย และหลีกเลี่ยงจังหวัดที่มีรอยเลื่อนเปลือกโลก จะตราจสอบได้ในแผนที่รอยเลื่อนของกรมทรัพยากรธรณี และธรณีวิทยาของต่างประเทศ และจากผู้มีญาณทัสสนะ ที่ทราบรอยเลื่อนที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่

นักวิชาการยังไม่มีข้อมูลเหล่านี้ ส่วนพื้นที่ภาคใต้ ภาคตะวันออก คงจะมีพื้นที่เหลืออยู่น้อยหน่อย และด้ามหวานทองเสี่ยงต่อคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ ที่เกิดขึ้นตอนโลกหยุดหมุนรอบตนเอง และจากภูเขาไฟใต้ทะเลเกิดระเบิดรุนแรง ต้องคอยติดตามข่าวแผ่นดินไหว ซึ่งจะเริ่มแต่น้อยไปหามาก เช่นทางตะวันออกของเกาะฮอนชู้เป็นต้น ถึงแม้ไม่ได้ศึกษาทางนี้มาก่อน ด้วยสามัญสำนึกก้พอวิเคราะห์ข้อมูลที่ปรากฏได้ด้วยตนเอง ว่าเหตุการณ์ต่อไปน่าจะเกิดอะไรขึ้น

และตอนแรกๆที่เปลือกโลกพากันเคลื่อนตัวใน 9 วันแรก ที่ดาวหางดวงโตกว่าโลก 4 เท่ามีมวลมากกว่าโลก 23 เท่า หางยาว โคจรเข้ามาใกล้โลกมากขึ้น ท่านผู้มีญาณทัสสนะเตือนไว้ว่าน้ำทะเลฝั่งอันดามัน จะกระโจนข้ามแผ่นดินมาทางอ่าวไทย และขุดคอคอดกระให้ด้วย เป็นที่หนึ่งที่ท่านพูดถึงเมื่อต้นเดือน มกราคม 2554 ที่วัดสันป่ายางหลวง จ.ลำพูน และใน Zetatalk พูดถึงปรากฏการณ์นี้เอาไว้มากแห่งทีเดียว นอกไปจากน้ำทะเลขึ้น หลังจากโลกย้ายแกนแล้วนั่น เป็นอีกขั้นตอนหลังเหตุการณ์

สำหรับเปลือกโลกทรุดตัว ประเทศไทยทั้งหมดจากภาคเหนือจดมาเลย์เซีย อยู่ในโซนที่มีการทรุดตัว2 เท่าของประเทศจีนใต้ตั้งแต่เมืองชายทะเลฮังซู่ลงมาถึงเหนือสุดของประเทศไทย จะทรุดตัว 20 ฟุต ไทยทรุด 40 ฟุต ส่วนมาเลย์เซีย ฟิลิบปินส์ อินโดนีเซียทรุดตัวเพิ่มขึ้นเป็น 80 ฟุต นี่เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาจากประเด็นอื่นๆ...หลายตำบลในจาร์การ์ต้า มีน้ำท่วมถึงเอวแล้วในปัจจุบัน ทั้งๆที่ไม่มีฝนตก)

ภาคกลางของประเทศไทยจะมีน้ำท่วมขึ้นมาถึงนครสวรรค์ แต่การท่วมจะค่อยๆไล่สูงขึ้นมาทางเหนือเรื่อยๆหลังจากโลกพลิกขั้วแล้ว ยกเว้นกรุงเทพและปริมณฑล ที่จะเกิดแผ่นดินทรุดระหว่างที่โลกย้ายขั้ว จึงจมน้ำทันที....แต่เคยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำมาก่อน เราก็ปรับตัวเสียหน่อย ทำให้ดีกว่าเก่า ไหนๆธรรมชาติก็ให้น้ำทะเลมาแก่เราแล้ว เราก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ต้องลงทุนสร้างทะเล เราก็ต่อยอดเสียเลย...ทุกท่านตั้งสติให้ดีจะได้ยิ้มได้ และยิ้มได้ตลอดไป...จะไม่ยิ้มได้อย่างไรมีอาหารทะเลอยู่รอบบ้าน..ลองค่อยๆตามผมมา...

สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่อื่น สามารถเตรียมสร้างบ้านเรือนแพ ด้วยทุ่นที่เป็นท่อพลาสติคที่ยังมีโรงงานผลิตอยู่ในปัจจุบัน นำมามัดรวมกันเป็นแพแบบถาวร ลงทุนใช้หลังคาพีระมิด อยู่สบายไปหลายๆอย่าง แล้วจับอีเลคตรอนจากพลังจักรวาลมาใช้งานฟรีตลอดเวลาได้อีกด้วย ก่อสร้างเอาไว้บนบกพร้อมสมอ 4 มุม ก่อสร้างคล้ายๆของเนเทอร์แลนด์ ซึ่งที่นั่นไปไกลมากหน่อยทำเป็นเมือง เป็นศูนย์การค้าลอยน้ำเลยทีเดียว แต่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม จึงอยู่แบบพอเพียงกับการประมง และสาหร่ายทะเล และทำผักสวนครัว ปลูกข้าวบนแพเอาไว้รับประทานก็อยู่ได้แล้ว

มีแต่ทะเลรอบบ้าน แล้วจะไปเอาน้ำจืดที่ไหนมาใช้ ทั้งภาคเกษตรและในครัวเรือน เรื่องน้ำจืดสำคัญต่อชีวิต เราก็ใช้น้ำจากฟ้าราคาถูก ไม่ต้องมีระบบชลประทานใดๆ ลงทุนน้อยใช้ได้ในรัศมี 30 กิโลเมตรต่อเครื่อง อยู่รวมกลุ่มในรูปสหกรณ์เลย ส่วนกลุ่มย่อยก็อยู่ด้วยกันซัก 9-12 หลังคา ทำแพเกษตรเอาไว้ตรงกลาง เพิ่มสีเขียวและผลิตออกซิเจนในเวลากลางวัน หลังคาบ้านจะมุงจากหรือหญ้าแฝกก็ได้ ทำดาษฟ้าเอาไว้ชมเดือนชมดาวได้อีกต่างหาก ส่วนใต้แพก็เป็นที่อาศัยของสัตว์ทะเล

ที่แนะนำนี่ไม่ใช่นิยาย ผู้สนใจ เข้าใจแล้ว ลงมือทำเอาไว้ล่วงหน้าได้เลย มาขอรับคำปรึกษาจากวุฒิวิศวกรได้ฟรี เบอร์โทรติดต่ออยู่ใต้หน้านี้ ทุกบ้านเตรียมแพเพื่อการเกษตรเอาไว้หน้าบ้านให้สีเขียว และอาหารประจำวัน เพิ่มสีสรรของดอกไม้สวยและหอมได้ตามใจชอบได้ตลอดปี

หลังโลกย้ายแกนแล้วประเทศไทยจะย้ายไปอยู่ใกล้ขั้วโลกใต้ อากาศจะคล้ายๆประเทศรัสเซียในปัจจุบัน หน้าหนาวจะค่อนข้างหนาวหน่อย หากปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ

ถึงแม้จะเป็นหน้าหนาว เราก็ติดตั้งศูนย์ป้องกันภัยธรรมชาติปรับอุณหภูมิให้มันอุ่นขึ้น จะได้ปลูกผักเมืองร้อนเอาไว้กินได้ เช่นมีหน่อไม้ฝรั่งเอาไว้กินได้ตลอดทั้งปี หรือจะขยายทำเพื่อส่งออกก็ได้ถ้าญี่ปุ่นเขายังเหลืออยู่บ้าง เขาสั่งซื้อของเราตลอดเวลาอยู่แล้ว เนื่องจากถ้าอากาศหนาวหน่อไม้ฝรั่งมันไม่ออกหน่อ ถึงแม้ราคามันจะแพง ไม่มีเทคโนโลยี่ช่วยมันก็ไม่ได้ขายไม่ได้กิน ต้องใช้ระบบเอ็นฟังก์ชั่น เข้ามาช่วยทำเกษตรอินทรีย์ต้นทุนต่ำ ร่วมกับ ระบบเพิ่มความร้อนด้วยพีระมิด และ เครื่องเรียกฝนด้วยพีระมิด ให้อากาศพอเย็นสบาย และมีความชื้นเพียงพอแก่งานเกษตร ซึ่งต้องการเพียง 20 % เท่านั้น ดีทั้งคนทั้งพืชผัก

ท่านที่ติดตามศึกษาอย่างแยบคายแล้ว ก็จะเห็นชีวิตชาวทะเล ที่แสนสุขสำราญบานใจ และพัฒนาจิตใจไปด้วยพร้อมๆกันตลอดเวลา...อู่ข้าวอู่น้ำของภาคกลางก็ไม่ได้หายไปไหน

เชิญทุกท่าน ร่วมสร้างบุญกุศลด้วยกัน ....ส่งต่อข่าวสารแก่เพื่อนๆ มีโอกาสชมจิ๊กซอร์ต่างๆ สำหรับนักค้นหาสาระชีวิตต่อภาพส่วนตัว ทั้ง ด้านโลกียะและโลกุตระ ที่ ainews1.com จัดไว้บริการให้แก่เพื่อนทุกเพศวัยทุกคน ฟรี ที่ลิงค์ /article385.html Bookmark and Share

1 ความคิดเห็น:

  1. การเตรียมการล่วงหน้าเผื่อๆเอาไว้บ้างก็ไม่เสียหายใช่หรือไม่?

    ตอบลบ