วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Scripted Drama

Scripted Drama

http://www.ainews1.com/article881.html

ZetaTalk: Scripted Drama

The stage having been set, then, the crust movement steps during the hour of the shift are as follows:

  1. As the South Pole, gripped by the passing North Pole of the 12th Planet, moves north, the crust is torn from the core and freed in this way, allowing pre-existing stress points to relax. Thus, Europe and Africa move further east, allowing the Atlantic to rip apart during the slide northward.
  2. The immediate effect of the massive plate housing Europe, Russia and the Near East to move is felt most strongly in India, as the Himalayas are driven over India at this point, effectively submerging this country in a wink.
  3. The effect of the Indo-Australian plate taking a dive under the Himalayas is to relieve tension along the African Rift, such that this tears, promptly, but in shuddering steps with halting adjustments and pauses between shudders. In essence, the movement eastward of the African continent is a momentum creating this tear.
  4. During the tearing of the Atlantic Ocean floor, and the dragging north or the North American continent, an already existing tear in the St. Lawence Seaway tears further, essentially the weak link in this landmass held at so many points to the further side of the Atlantic Ocean. Canada moves north, while the rest of the Americas cling to the Atlantic Rift while it separates.
  5. The movement of the massive plate housing Europe, Russia, and Asia to the east also is expected to rip this plate along the Himalayas, as we have stated, creating an inland bay into the Russian lands just to what is now the north of the Himalayas. This follows, in jerks and tears, over the hour of the shift, along with the tearing of the African Rift.
  6. When the ocean off the bulge of Brazil has reached the position of the current North Pole, crust slippage stops, creating yet another drama. The major northern hemisphere plates stop, and whatever follows crashes into them. In the case of the Americas, this causes Central America and the Caribbean to crumble.
  7. In the case of Africa, already sliding eastward, the force is further movement eastward, as subduction of the Indo-Australian plate has already begun, the weaker link already established and momentum in process.
  8. The pileup is in what was the former Northern Hemisphere, and the compression of the Pacific is creating resistance as plates are subducted under the Americas, and then Japan explodes and Indonesia crumbles.
  9. This frees the plates south of the tips of South America and Africa of stress. As the Pacific adjusts, reluctantly, pressure toward Antarctica, the one place on the globe not experiencing plate pressure, allows new land to pop up between the tips of South America and Africa.

http://www.zetatalk7.com/poleshft/p148.htm

พิจารณาจากภาพรวมระหว่างที่พื้นที่ประเทศไทย และแถบเอเช๊ยตะวันออกเฉียงใต้กำลังเคลื่อนตัวลงไปในเขตขั้วโลกใต้ใหม่นั้น ต้องฝ่าทั้งน้ำในมหาสมุทรอินเดีย ทะเลจีนใต้ และน้ำจากมหาสมุทรแปซิฟิกที่จะเคลื่อนตัวสวนขึ้นมาและมุ่งไปเติมที่ว่างประเทศอินเดียจมพร้อมกับปลายแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย อีกประมาณ 16 ล้านตารางกิโลเมตร จึงเป็น Tidal Bore ครั้งใหญ่ของมหาสมุทร และเกิดผลกระทบต่อผู้ที่อยู่บนผืนแผ่นดินโดยเฉพาะในที่ต่ำกว่า 300 เมตรจากระดับน้ำทะเล

หลังจากเกิดการระเบิดของภูเขาไฟที่เกาะเหนือของญี่ปุ่น และเกิดคลื่นแผ่นดินไหวรุนแรง จะส่งแรงสั่นสะเทือนมาปลดเบรคของแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย เลื่อนมาข่มทับ แผ่น Sunda Plate ที่ประเทศอินโดนีเซียตั้งอยู่ จมลงเต็มเกณฑ์ 80 ฟุต ทันที

ดังนั้นผู้ที่อาศัยอยู่บนแผ่น Sunda Plate ทั้งหมด รวมทั้ง ชาวเกาะมาเรียน่า และกวม ด้วยเช่นกัน ที่แผ่นแปซิฟิก จะส่งแรงดันมาทางทิศตะวันออก จนแผ่นเหล่านี้เอียงจมลง และแผ่นมาเรียน่ายังจะเคลื่อนตัวมาทางทิศตะวันออกถึง 47 ไมล์อีกด้วย

ดังนั้นพื้นที่ประเทศไทย จะทรุดตัว ลงพร้อมๆกับ อินโดนีเซีย จะจมลงในเกณฑ์ 40 ฟุต พื้นที่เสี่ยงที่อยู่เหนือน้ำทะเลไม่ถึง 50 ฟุต จึงอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับผลกระทบ เป็นเหตุการณ์แรก ในช่วง 7/10 Sceanarios ที่คุณ Zeta พยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้านานแล้ว และปัจจุบันเหตุการณ์ของแผ่นเปลือกโลกในย่านนี้ก็กำลังขับเคลื่อนไปในทิศทางที่คุณ Zeta กล่าวไว้ แม้ว่าจะไม่ได้รับการเปิดเผยผลต่างๆทางสื่อมวลชนทั่วไปก็ตาม

ก็ยิ่งจะส่งผลลบให้แก่ประชากรของแต่ละประเทศ ไม่มีการเตรียมตัวรับเหตุการณณ์ครั้งนี้ในฉากแรก ที่จะเป็นข่าวช๊อคโลกทีเดียว

ที่เห็นนี้เป็นเพียงหนังตัวอย่าง ไม่ต้องเก็บไปเป็นกังวล เป็นเรื่องธรรมดาของโลกในรอบนี้ก่อนจะปรับยกขึ้นไปสู่ 4th Density รู้แล้วก็เตรียมตัวไปพลางสู้พลาง ช่วยชาติไปพลาง แวะพบปะพูดคุยกันที่ลิงค์นี้ก่อนก็ได้...ไหนๆพวกเราก็ได้เลือกมาเกิดในยุคนี้กันอยู่แล้ว เพื่อต้องการทำอะไรที่สำคัญ สำหรับชีวิตของเราครั้งสุดท้าย จงอดทนสู้ให้ดีที่สุดอย่างผู้รู้รอบในแต่ละเรื่อง ไม่ตื่นตระหนกใดๆ ฟังไว้รู้ไว้ แต่คิดเอง

เชิญทุกท่านร่วมด้วยช่วยกัน....ส่งต่อข่าวสารแก่เพื่อนๆ มีโอกาสชมจิ๊กซอร์ต่างๆ สำหรับนักค้นหาสาระชีวิตต่อภาพของตนเอง ทั้ง ด้านโลกียะและโลกุตระ ที่ ainews1.com จัดไว้บริการให้แก่เพื่อนๆทุกเพศวัยทุกคน ฟรี ที่ลิงค์ /article385.html Bookmark and Share

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สาระชีวิตที่หลายๆคนกำลังตามหา


หลายๆคนที่กำลังตามหาโอกาสและสาระดีๆให้แก่ตนเอง อาจยังไม่เคยพบสาระและโอกาสเช่นนี้ ที่ไม่เป็นภาระยุ่งยากมากนัก สะดวกประหยัด เกิดประโยชน์ยิ่งแก่ตนเอง เพื่อนๆร่วมชาติ ได้มาช่วยเหลือกัน พึ่งพาอาศัย และได้รับคำแนะนำปรึกษา ต่อยอดประสพการณ์ชีวิตของแต่ละคน ให้เข้าถึงทางลัดชีวิต ต่อไป ที่ลิงค์นี้ ของ กูเกิล นั่นเอง....
https://groups.google.com/forum/#!forum/3gtot

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ติดตั้งกระเป๋าเศรษฐี

ติดตั้งกระเป๋าเศรษฐีให้แก่ตนเอง

http://www.ainews1.com/article880.html

กระเป๋าเศรษฐี

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจในเรื่อง กระเป๋าเศรษฐีให้ตรงกันก่อน ปกติทุกคนก็มีกระเป๋าเงินที่มีเงินหมุนเวียนในระดับต่างๆกันไปอยู่แล้ว เศรษฐีบ้างไม่ใช่บ้าง ส่วนการติดตั้ง กระเป๋าเงินเศรษฐี ที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังนี้ ก็พอจะมีเงินไหลเข้ามาให้หมุนเวียนประจำเดือนไม่มากนัก ไม่ถึงกับระดับมหาเศรษฐี

ผู้ที่ประสงค์ต้องการติดตั้ง กระเป๋าเงินเศรษฐี เพิ่มเติม ในกิจการระดับชาติมูลค่าหลายแสนล้านบาทคราวนี้ ก็สามารถเลือกติดตั้ง กระเป๋าเศรษฐีได้ ในหลายๆระดับ

ตั้งแต่มีรายได้ไหลเข้ามา 4-5 ล้านบาท/เดือน หรือหลายๆสิบล้านบาท/เดือน หรือหลายๆร้อยล้านบาท/เดือน ก็พอจะจัดได้ว่ารวยอย่างพอเพียง ในยุคที่เงินหาได้ยากขึ้นทุกที และค่าของเงินยังลดค่าลงไปอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ตัวอย่างเช่นเมื่อ 40 ปีก่อน ทองคำหนักหนึ่งบาท เท่ากับเงินมูลค่า 400 บาท เดี๋ยวนี้เพิ่มเป็น 25,000 กว่าบาทต่อทองคำน้ำหนัก 1 บาท ค่าของเงินลดลงไป 60 กว่าเท่าตัว แต่รายได้ของมนุษย์เงินเดือน ไม่ได้สูงกว่าแต่ก่อนนี้ซักเท่าใด มนุษย์เงินเดือนประมาณ 70 %ของคนทั้งประเทศ จึงมีรายรับไม่พอกับรายจ่ายต้องดิ้นรนหารายได้เสริมกันให้วุ่นวาย ให้รายได้เพียงพอกับรายจ่ายที่จำเป็น

ทีนี้โครงการระดับชาติที่นำมาเล่าสู่กันฟังนี้ เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่คนไทยจะได้รับประโยชน์ในหลายทางพร้อมๆกัน เช่นได้ช่วยส่งเสริม ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ ได้ช่วยชาติ ได้ใช้ด้วยตนเอง และมีรายได้กลับมาอย่างเป็นกอบเป็นกำอีกด้วย ตามที่ได้บอกแล้ว ว่าแล้วแต่เราจะเลือกเอา ถ้าช่วยชาติมากหน่อยก็รับรายได้มากตามไปด้วย ขึ้นอยู่กับการวางแผนว่าเราจะมีกำลังใจ จะช่วยชาติมากน้อยจริงจังเพียงใด

หลายๆคนอ่านมาถึงตรงนี้คงอยากจะทราบแล้วว่า โอกาสเพียงครั้งแรกและครั้งเดียวของคนไทยทั่วประเทศนั้น เป็นมาอย่างไร ก็มาเริ่มที่

  • ไทยทำกันก่อน ไทยทำในกรณีนี้ก็คือ บจม.ทีโอที ซึ่งเป็นของคนไทยทุกคน มีกระทรวงการคลังถือหุ้น 100 % นับว่าเป็นสมบัติของพ่อแม่เราก็ได้เป็นผู้ทำโครงข่ายคมนาคมไร้สาย 3.9G ให้ใช้ครอบคลุมพื้นที่ใช้งานทั้งประเทศ
  • ส่วนไทยใช้นั้น เมื่อทีโอที ทำการติดตั้งโครงข่ายคมนาคมบอร์ดแบนด์ 3.9G ขึ้นทั่วประเทศจะเสร็จเรียบร้อยทั้งประเทศ 1 มิถุนายน 2555 ให้คนไทยทั่วประเทศมาใช้ช่องทางการสื่อสารยุคใหม่ ดุจกับการจราจรบนถนน 12 เลน ไปกลับสวนกันข้างละ 6 เลน มีความเร็วในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 42 Mbps บนความถี่คลื่น 2,100 MHz เป็นความถี่มาตรฐานโลกที่ใช้กันทั่วโลก ทั้งอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น คนใช้ที่เข้ามาใช้การสื่อสารยุคใหม่นี้ก็สามารถใช้หลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน ด้วยความรวดเร็วเกือบไม่ต้องกระพริบตาทีเดียว ไม่ต้องเฝ้ารอนานกว่าจะโหลดข้อมูลใหญ่ๆแต่ละคราว รวดเร็วแม่นยำทันใจมากขึ้น
  • ส่วนไทยเจริญนั้น เงินค่าแอร์ไทม์ปีละประมาณ 500,000 ล้านบาทจะได้หมุนเวียนอยู่ในประเทศอีกซัก 10 รอบช่วยทุ่นเงินงบประมาณได้เพิ่มขึ้นอีก 20-25% ลูกหลานไทยต่อไปก็จะมีเงินใช้คล่องตัวขึ้น

ทีนี้เมื่อเป็นโอกาสดีของคนไทยทั่วประเทศ ก็ไม่ต้องรอจนโครงข่ายโทรคมนาคม 3.9G เสร็จทั้งหมดทั่วประเทศ ปัจจุบันเสร็จใช้ได้แล้วประมาณ 20 จังหวัดใหญ่ๆ ทั้งเหนือ ใต้ อิสาน ตะวันออก ก็มาลงมือใช้งานกันเลย โดยเข้ามาติดตั้ง กระเป๋าเศรษฐี ให้แก่ตนเอง ครอบครัว และเพื่อนสนิทมิตรสหาย ในทุกๆวงการธุรกิจ และมวลหมู่สมาชิกของกลุ่มต่างๆ สถาบันต่างๆได้ทุกประเภทอีกด้วย นำโครงการ3.9G TOT กับ SSN ไปต่อยอดให้กับทุกวงการธุรกิจ และหมู่คณะต่างๆ ทั้งราชการและเอกชน ติดตั้ง กระเป๋าเศรษฐี ให้แก่ตนเองเพิ่มขึ้น และบริษัทบริวาร ใครมาทีหลังปลาในทะเลประมาณ 90 ล้านซิม ร่อยหรอเหลือน้อยแล้ว ก็จะไม่ได้กระเป๋าเศรษฐี จะกล่ายเป็นกระเป๋าสตางค์เพิ่มขึ้นอีกใบ พอมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นหมื่นเป็นแสนต่อเดือนแทน

เมื่อมาชี้ช่องทางโอกาสดีแล้วเช่นนี้ ก็เป็นหน้าที่ของผู้รับฟังจะต้องเข้าไปสอบสวนทวนความ หาความจริงให้ปรากฏแก่ตนเองอย่างรวดเร็ว กระเป๋าเศรษฐี เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ใครที่พอทราบระแคะระคายมาก่อน มาพบโอกาสคราวนี้อีกที ก็จะตั้งลำได้ก่อนคนอื่น รีบลงในรายละเอียดทุกซอกทุกมุม หาความรู้ความเข้าใจจากลิงค์ต่างๆที่เนื่องเกี่ยวทุกๆลิงค์ ตอบคำถามต่างๆให้แก่ตนเองได้ครบถ้วนแล้ว ก็จะมาชั่งใจ ตัดสินใจว่าจะเตรียมการช่วยชาติกว้างไกลเพียงใด หรือตระเตรียมPlatform (แผนการตลาด) เพื่อรองรับรายได้อนาคตที่อยู่แค่มือเอื้อม เอาไว้มากน้อยเพียงได จะรองรับรายได้ที่ไหลเข้ามาทุกๆเดือนจากส่วนแบ่งค่าแอร์ไทม์ที่เกิดขึ้นทุกเดือน ในประเด็นนี้ไม่อยากชี้ลงไปในรายละเอียดมากนัก ชี้ช่องให้แล้วผู้ที่มีปัญญาทั้งหลายก็สามารถสืบเสาะหาความรู้ในรายละเอียดต่างๆคิดคำนวณเองได้แล้ว ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

ขอให้ชาวไทยผู้รักชาติ รักแผ่นดิน เข้ามาช่วยกันติดตั้ง กระเป๋าเศรษฐีใบใหม่ให้แก่ตนเองและครอบครัว จนกระทั่งซิม 3.9G TOT กับ SSN ประมาณ 90 ล้านซิมหมดไปอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่เดือน ผู้ที่เห็นโอกาสพบที่ดินตาบอดขายราคาถูกๆ แล้วไม่รีบซื้อไว้ อีกไม่กี่เดือนจะมีถนน 12 เลนตัดผ่านที่ดินนั้นทุกแปลง ราคาที่ดินจะพุ่งขึ้นอีกกี่หมื่นเท่า แล้วเราจะมานั่งเสียใจเสียดายโอกาสที่ได้คิดช้าไปอยู่ใย โอกาสดีเพียงครั้งเดียวมันได้ผ่านเลยไปยังผู้อื่นเสียจนตลาดจะวายแล้ว...สิ่งเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นกับอีกหลายๆคนที่สายตาไม่ยาวและแหลมคมเพียงพอ มีเมฆหมอกมาบังภาพแห่งความเป็นจริงเอาไว้ ก็ไม่ว่ากัน

เชิญทุกท่านร่วมด้วยช่วยด้วยกัน....ส่งต่อข่าวสารแก่เพื่อนๆ มีโอกาสชมจิ๊กซอร์ต่างๆ สำหรับนักค้นหาสาระชีวิตต่อภาพส่วนตัว ทั้ง ด้านโลกียะและโลกุตระ ที่ ainews1.com จัดไว้บริการให้แก่เพื่อนทุกเพศวัยทุกคน ฟรี ที่ลิงค์ /article385.html Bookmark and Share

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

ทางลัดครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต

ทางลัดครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต

http://www.ainews1.com/article870.html

โอกาสครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต ท่านคิดว่าจะมีความหมายต่อชีวิตของคนไทยอย่างไร ..ก็ยังนึกไม่ออกนะ ว่าในช่วง Transformationของโลก ที่กำลังดำเนินอยู่นี้ อะไรๆที่คนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นได้ เช่นทางลัดครั้งเดียว และเป็นครังแรกของมหาชนชาวไทย ทั่วทุกหมู่เหล่า ได้เกิดขึ้นแล้ว...ที่ไหนล่ะ

แม้ทาง Google จะขึ้นรายการจากคำค้น วาระแห่งชาติกับ 3.9G เอาไว้หลายหน้าติดต่อกันก็ตาม

ชาวไทยส่วนใหญ่ที่ได้มาพบเข้าก็ยังไม่เข้าใจความสำคัญต่อชาติไทยที่กำลังปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตา และไม่ได้เฉลียวใจว่าที่หน้าท้ายๆเป็นสาระของ 3.9G ของ ทีโอที ของรัฐบาล และของ กทช.ที่บอกเล่าเรื่องราวของบอร์ดแบนด์ของประเทศไทยได้คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว และได้ผ่านเลยไปโดยไม่ได้ลงไปดู ศึกษาพิจารณาในรายละเอียด ผ่านเลยไป โดยมิได้รู้ตัวว่า ในชีวิตของตนเอง ได้เฝ้าค้นหาโอกาสและงานอาชีพ หรือหนทางลัดที่จะช่วยการดำรงค์ชีวิตของตนและครอบครัว และมีโอกาสได้ช่วยประเทศชาติได้ทุกๆคนได้อีกด้วย

หมู่คนเหล่านี้เมื่อผ่านเลยโอกาสดีๆครั้งแรกในชีวิตของตนไปเสียแล้ว ต้องรอให้คนอื่นๆอีกนับหมื่นนับแสนได้ค้นพบโอกาสครั้งเดียวในชีวิต และเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ผู้บริโภคจะสามารถเข้าถึงค่าการตลาดมือถือกองใหญ่โตทุกๆเดือนร่วม 8,000 ล้านบาท จะได้นำเม็ดเงินกองนี้มาแบ่งปันกลับคืนสู่กระเป๋าของผู้ใช้มือถือ ได้จำนวนนับแสนนับล้านในแต่ละเดือนทีเดียว แล้วอย่างนี้มันน่าเสียดายโอกาสไหมล่ะ

พูดมาถึงตรงนี้ หลายๆคนฟังแล้วก็ยังอาจไม่เข้าใจอยู่ดี ที่เม็ดเงินค่าการตลาดมือถือกองใหญ่โตนี้ เคยตกอยู่ในอาณํติของเจ้าของค่ายสัมปทานมือถือทุกค่าย ในระบบ 2G มาเนิ่นนาน จนตนเองไม่เคยคาดคิดว่าจะมีโอกาสนำมาแบ่งปันกลับคืนให้แก่ผู้ใช้มือถือ และเจ้าของธุรกิจรายย่อยทั่วประเทศได้

เมื่อมีโอกาสที่จะมีส่วนได้รับเงินค่าการตลาดก้อนนี้ ท่านว่ามันเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวและครั้งแรกของชาวไทยไหม และทุกๆคนจะใช้มันให้เป็นทางลัดของทุกๆชีวิตได้อย่างไร ในเมื่อทุกคนได้พบว่าเม็ดเงินกองนี้มันมีอยู่จริงทุกๆเดือนแล้ว ก็ค้นหาต่อไปว่ามีอุปกรณ์ใดอยู่บ้าง ที่จะช่วยเราให้ได้รับส่วนแบ่งการตลาดกองใหญ่นี้บ้างสักเดือนละ 4-5 ล้านบาท หรือบางคนได้พบแล้วจะเตรียมการล่วงหน้ารองรับรายได้หลายๆสิบล้านหรือหลายๆร้อยล้านต่อเดือน ให้ตนเองมีภารกิจช่วยชาติได้มากขึ้น กว้างขวางมากขึ้น ใช้เวลาให้สั้นที่สุดในการขยายเครือข่ายผู้บริโภค 3.9G TOT กับ SSN ให้ทั่วถึงทั้งประเทศอย่างรวดเร็ว

โดยไม่ต้องคำนึงถึงโครงข่ายสัญญาน ลงทุนซื้อที่ดินตาบอดราคาถูกๆเอาไว้ล่วงหน้า อีกไม่กี่เดือนถนน 12 เลนก็จะตัดผ่านที่ดินราคาแพงริบริ่วของเราแล้ว มองอย่างคนสายตายาวและแหลมคม เช่นในบางพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลก ที่ยังไม่มีข่ายสัญญานทีโอทีเกิดขึ้น แต่ประชาชนก็ได้เข้ามาทำงานขยายเครือข่ายผู้บริโภคกับ SSN โดยมิชักช้า สิงเหล่านี้ที่พูดถึงทั้งหมด สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องด้วยปัจจัยทางด้านการตลาด ยังเพิ่มเริ่มต้นเท่านั้น ทั่วทั้งประเทศมีความต้องการใช้ ซิม 3.9G ถึง 90 ล้านซิมทีเดียว ใช้กับมือถือ ใช้กับแลปท๊อบ หรือไอแพด ใช้กับซีพียูที่บ้านรวมแล้วคนหนึ่งใช้มากกว่า 1 ซิมขึ้นไปถึง 3-4 ซิมเป็นต้น

โอกาสและทางลัดเหล่านี้ แสดงตนอยู่อย่างเปิดเผยใน Google เมื่อได้ค้นคำว่า 'วาระแห่งชาติกับ 3.9G' กูเกิล มีสัญชาติอเมริกันยังสนับสนุนเต็มที่ ให้โอกาสแก่คนไทยทุกคนที่ใช้มือถือเข้ามาช่วยชาติ ได้ใช้ และยังมีรายได้กลับมา 4-5 ล้านบาทต่อรหัสในแต่ละเดือนอีกด้วย

ชาวไทยที่มีโอกาสได้อ่านเว็บเพจนี้แล้ว อย่าได้นิ่งเฉยอยู่ คนอื่นๆที่ทราบแล้วเอาใจใส่ ค้นหาความจริงอย่างขมักเขม้น เขาจะแซงหน้าเราไปเสียหมด ปล่อยให้เราที่เคยพบมาก่อน ต้องอยู่ท้ายๆคิว แล้วปลาในทะเลขณะนั้นจะเหลือให้จับอีกซักกี่มากน้อย แม้จะมีอุปกรณ์การตลาดดีเพียงใด ตลาดอาจจะใกล้วายไปแล้วก็ได้ในโลกยุคดิจิทอล ไม่เคยรอท่าใครนาน

เป็นโอกาสครั้งแรกและครั้งเดียว ที่คนไทยมีโอกาสพบทางลัด ไปสู่เป้าหมายของทุกๆคน ในด้านช่วยชาติ และแสวงหารายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัวและประเทศชาติไปพร้อมๆกัน

ส่วนทางลัดของชีวิตในทางธรรมก็เช่นเดียวกัน เวลาไม่รอท่าใคร ไม่มีใครรู้ว่าวันข้างหน้าจะประสบเคราะห์กรรมอย่างไรบ้าง และจะหนักหนาแค่ไหน หากเราจะเตรียมจิตใจให้พร้อมอย่างรวดเร็ว ทางลัดอาจเป็นที่พึ่งที่ดีทีเดียว ท่านที่สนใจเตรียมพร้อมจิตใจของท่าน เมื่อเลื่อนลงไปท้ายเพจ ของ ainews1.com คลิ๊กที่นั่นจะพาท่านไปยังสารบัญสาธารณะ ในคอลั่มที่ 2 ท่านจะค้นพบทางลัด สำหรับจิตใจของทุกๆท่าน ที่จะทำความเข้าใจ และลงมือปฏิบัติได้ทันทีอย่างรวดเร็ว ทันแก่กาลเวลาและยุคสมัย ที่พ่อเกิดแม่เกิดของทุกๆชีวิตได้เปิดโอกาสให้แล้ว ขอโมทนาด้วยกับทุกๆท่าน

เชิญทุกท่านร่วมด้วยช่วยกัน....ส่งต่อข่าวสารแก่เพื่อนๆ มีโอกาสชมจิ๊กซอร์ต่างๆ สำหรับนักค้นหาสาระชีวิตต่อภาพของตนเอง ทั้ง ด้านโลกียะและโลกุตระ ที่ ainews1.com จัดไว้บริการให้แก่เพื่อนๆทุกเพศวัยทุกคน ฟรี ที่ลิงค์/article385.html Bookmark and Share

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

ทางลัดและอุปกรณ์ช่วยชาติ

ทางลัดและอุปกรณ์ช่วยชาติ

http://www.ainews1.com/article869.html

เวลาที่ชาวโลกกำลังจะต้องเผชิญต่อความเปลี่ยนแปลงยุคสำคัญอีกวาระหนึ่งนั้น หรือ Transformation ของโลกเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดเวลา จนกว่าจะสิ้นสุดในอีกประมาณ 100 ปีข้างหน้า ภารกิจใดโดยเฉพาะที่ชนชาวไทยทั่วประเทศทุกหมู่เหล่าจะเข้ามาช่วยชาติได้ ในช่องทางต่างๆตามถวามถนัดของแต่ละคน ก็ให้เร่งรีบพิจารณาศึกษาหาข้อมูลต่างๆ เข้าใจแล้วรีบดำเนินการทันที

เจ้าของธุรกิจรายย่อยทั่วประเทศ ในสินค้าใดๆก็ตาม ยังมีอีกธุรกิจหนึ่งที่เป็นมิตรกับทุกๆสาขาอาชีพ นั่นคือแอร์ไทม์ค่าโทรศัพท์ โดยเฉพาะ โทรศัพท์ 3.9G ของ TOT ซึ่งต่อยอดมาจากระบบ 3G ทำความเร็วสูงขึ้นถึง 42 Mbps ทีเดียว เร็วกว่า 3 G 20 เท่าตัว และประหยัดเวลาการทำงานและค่าแอร์ไทม์ได้เพิ่มมากขึ้น แม้จะออนไลน์อยู่ตลอดเวลาก็ตาม คิดค่าดาวน์โหลดคอนเท้นท์เพียงเม็กละ 75 สตางค์เท่านั้น

ในหัวข้อเรื่องพูดถึงทางลัด ในการเป็นเจ้าของธุรกิจ (ส่วนตัว) นั้นและยังใช้เงินลงทุนน้อย เทียบไม่ได้กับมูลค่าการตลาดที่จะได้รับภายหลัง แล้วยังนำไปต่อยอดธุรกิจอื่นๆได้ทุกชนิดอีกด้วย ทำให้ทุกๆคนที่ทราบโอกาส มีแต่ความชื่นมั่น ได้มีส่วนเข้ามาช่วยชาติ และยังได้ใช้ และยังมีรายได้กลับมาอีกนับ ล้านๆบาทในแต่ละรหัส/เดือนอีกด้วย

ที่ว่าคนทำธุรกิจ ต้องการหาทางลัด และตัวสินค้าที่เป็นที่ต้องการของผู้ใช้ทุกเดือนที่หมดไป ต้องกลับมาซื้อซ้ำใหม่ โดยไม่ต้องมีใครมากระตุ้นเตือน ใช่แล้วค่าแอร์ไทม์โทรศัพท์เป็นคำตอบที่หลายๆคนรอมานานหลายปี ว่าเมื่อไรจึงจะเสร็จออกมาใช้ได้ และมูลค่าธุรกิจค่าแอร์ไทม์แต่ละปี มากถึง 500,000 ล้านบาทมีเดียว...เทียบกับธุรกิจขายตรงอาหารเสริมและเครื่องสำอาง 500 กว่าบริษัทมียอดจำหน่ายได้เพียงปีละ 6 หมื่นกว่าล้านบาทเท่านั้น

นอกจากนี้ผู้เข้ามาเป็นเจ้าของธุรกิจ ยังได้มีส่วนร่วมกันช่วยชาติอีกด้วย หากทำกันอย่างกว้างขวางทั่วประเทศจะช่วยให้ประเทศชาติมีเม็ดเงินเพิ่มขึ้นในวงจรเศรษฐกิจชาติอีกประมาณ 20% ของเงินงบประมาณประเทศทีเดียว ท่านลองคิดดูหากนำเงิน อีกปีละ 500,000 ล้านบาทเข้ามาเพิ่มในวงจรเศรษฐกิจ ย่อมจะเกิดความคล่องตัวทางการเงินขึ้นในประเทศของเรามากทีเดียว ลำพังค่าการตลาดมือถือที่มีมากถึงเดือนละ 8,000 ล้านบาท หากได้นำมากระจายจ่ายคืนให้แก่ผู้ใช้โทรศัพท์อีกด้วย ก็จะยิ่งช่วยกระจายรายได้ไปทั่วประเทศ ที่เราจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์กันอยู่แล้ว และยังใช้ประชุมทางไกลได้อีก ประหยัดค่าเดินทางและเวลา ของผู้ที่ต้องเข้าร่วมประชุม

เกริ่นมาตั้งนาน หลายๆท่านคงรอฟังอยู่ว่า แล้วทางลัดที่ว่านั้น แพงไม๊ ต้องลงทุนมากไหม คืนทุนนานไหม และจะช่วยชาติได้จริงหรือ ลงทุนเพียงรหัสละ 750 บาทตลอดไป พร้อมกับเติมเงินอีกเดือนละ 500 บาท ในคำตอบเหล่านี้มีอยู่ในเว็บเพจต่างๆ ในกูเกิล อย่างแพร่หลาย ที่แจกแจงเรื่องราวแต่ละมุม ที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องๆไป ว่าเป็นจริงและที่กำลังทำกันอยู่แม้ว่าเครือข่ายสัญญานจะยังไปไม่ถึง ชนชาวไทยเหล่านั้นก็ไม่รีรอรีบลงทุนซื้อที่ดินตาบอดเอาไว้รอราคาก่อนล่วงหน้าเลยทีเดียว เช่นบางพื้นที่ของพิษณุโลกเป็นต้น

ในหมู่คนที่มีโอกาสได้ทราบทางลัดช่วยชาติ ครั้งเดียวและครั้งแรก และนำไปต่อยอดให้แก่ธุรกิจเดิมของตน หรือของเพื่อนๆ หรือองค์กรต่างๆ ที่ล้วนต้องใช้ซิมโทรศัพท์ และเติมเงินค่าแอร์ไทม์ ทั้งนั้น หากเรามีโอกาสเลือกครือข่ายของ SSNกับ TOT ใช้ 3.9G ฟรีในเครือข่ายเดียวกันตลอดเวลา ได้ช่วยชาติ แล้วยังมีรายได้คืนกลับมาถึง 4 ล้านกว่าบาทในแต่ละเดือนต่อรหัส ใครได้ทราบรายละเอียดแล้ว จะไม่รอช้ารีบเข้ามาเริ่มดำเนินการช่วยชาติทันที ได้ช่วยตนเอง เพื่อนฝูงและครอบครัว ล้วนเป็นผลดีต่อทุกๆภาคส่วนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง

สำหรับหลายๆคนที่ค้นหาทางลัดสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว และยังแถมได้ช่วยชาติอีกด้วย คงจะใช้เวลาค้นหารายละเอียดที่ปรากกในเว็บเพจต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อย่างเร่งด่วนจริงจัง ให้เกิดความรู้ครบวงจร ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในขนาดต่างๆกันไป แล้วแต่เป้าหมายของแต่ละคน ว่าจะจับปลาในมหาสมุทรที่มีมากมาย นับ 90 ล้านซิม ด้วยอุปกรณ์การตลาดของ SSN ที่เราขอเข้าไปลงทุนร่วมด้วยเท่าที่ต้องการ แล้วท่านที่ปรึกษาของบริษัท ยังมีการติวเข้มออกแบบแผนปฏิบัติการ ที่นำไปใช้ในสนามได้ทันที โดยเคยใช้ได้ผลสำเร็จเป็นอย่างดีมาแล้วในวงการประกัน ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับสินค้าแอร์ไทม์โทรศัพท์มือถือ 3.9G ซึ่งสะดวกง่ายกว่าการขายกรมธรรม์ประกันเป็นไหนๆ ทุกคนที่ต้องการความสำเร็จอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์กับทีมงานของเรา สามารถนำไปใช้ซ้ำได้ทันทีทุกคน ไม่ต้องมาควานหาหนทางลัดต่างๆด้วยตนเองกับธุรกิจนี้อีกต่อไป

ทุกทราบข่าวแล้วรีบรวมกลุ่มกับเพื่อนคู่หูอีก 4 คนเป็น 1+4 แล้วติดต่อจองคิวเข้าติวเข้มที่สมศักดิ์ ที่ปรากฏเบอร์โทรอยู่ท้ายหน้าเพจนี้ได้ทันที

เชิญทุกท่านร่วมด้วยช่วยกัน....ส่งต่อข่าวสารแก่เพื่อนๆ มีโอกาสชมจิ๊กซอร์ต่างๆ สำหรับนักค้นหาสาระชีวิตต่อภาพของตนเอง ทั้งด้านโลกียะและโลกุตระ ที่ ainews1.com จัดไว้บริการให้แก่เพื่อนๆทุกเพศวัยทุกคน ฟรี ที่ลิงค์ /article385.html

วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

แปดอาทิตย์พิชิตเบนซ์

แปดอาทิตย์พิชิตเบนซ์

http://www.ainews1.com/article868.html

ชาวไทยส่วนใหญ่อาจยังไม่ทราบว่า บจม.ทีโอที ซึ่งกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น 100% ได้รับเงินงบประมาณ ตั้งแต่ พ.ศ. 2553 เป็นเงิน 16,000 ล้านบาท นำมาสร้างโครงการบอร์ดแบนด์ 3.9G ต่อยอดจาก 3G ซึ่งปกติมีความเร็วเพียง 2 Mbps เป็น 42 Mbps ทำให้ประหยัดในการใช้งานและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำหลายๆอย่างได้ในเวลาเดียวกัน บนความถี่คลื่น 2,100 MHz มาตรฐานโลกและได้ให้ 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ ดำเนินการติดตั้งโครงข่ายในจังหวัดต่างๆมาแล้วปีเศษเปิดใช้งานไปด้วยพร้อมๆกัน อย่างไม่เป็นทางการกว่า 20 จังหวัดแล้ว ตรวจสอบพื้นที่บริการได้ที่ tot3g.net แต่ถ้าตรวจสอบสภาพสัญญานในพื้นที่จริงอาจเริ่มต้นใช้งานได้แล้ว โดยคณะกรรมการ ทีโอทีได้คัดเลือกให้บริษัท SSN ซึ่งมีท่านพลเอก พิเชษฐ์ วิสัยจร อดีตรอง ผบทบ.เป็นประธาน เข้ามารับงานด้านการตลาดแบบเครือข่ายหลายชั้นเพียงบริษัทเดียว ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2554 พอเริ่มงาน ก็มีน้ำท่วมเสีย 2 เดือน แม้กระนั้นผลงานที่ผ่านมาก็ยังเข้าตาบอร์ดของ ทีโอที ไม่น้อยทีเดียว ที่มีความคืบหน้าเพิ่มลูกค้าเข้าใกล้ 100,000 ซิมเข้าไปทุกที แม้จะมีเวลาทำงานจริงๆเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น เพื่อเร่งรัดการขยายงานเพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ให้เจ้าของธุรกิจรายย่อยกับ SSN คว้ารายได้ระดับห้าแสนได้รวดเร็วขึ้น จึงเกิด โครงการแปดอาทิตย์พิชิตเบนซ์ขึ้นมา

โครงการแปดอาทิตย์พิชิตเบนซ์ เป็นแนวนโยบายของที่ปรึกษาด้านการตลาดของบริษัท SSN อาจารย์ประทีป แตงทอง ผู้เคยมีชื่อเสียงเลื่องลือในวงการประกัน ได้เปิดการติวเข้มให้แก่เจ้าของธุรกิจรายย่อยของ SSN เข้าร่วมโครงการเมื่อสัปดาห์ก่อน (15 ม.ค.) 200 กว่าท่าน แล้วเริ่มเดินหน้าลงพื้นที่ทันทีผลงานในสัปดาห์แรกได้ผลเกินเป้าที่ตั้งไว้ โดยคนหนึ่งต้องหาให้ได้ 4 คน กำลังเป็นที่สนใจของผู้ที่ต้องการรายได้ห้าแสนในแปดสัปดาห์ แถมรถเบนซ์ C-200 ราคา 2.7 ล้านให้อีก 1 คัน

ตัวสินค้าเป็นค่าแอร์ไทม์ของ 3.9G TOTที่ SSN เปิดโอกาสให้ผู้ใช้มือถือเข้ามาเป็นเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่ใช้เงินลงทุนต่ำ โดยทีโอที จะใช้การตลาดใช้แล้วบอกต่อ มาขยายเครือข่ายผู้บริโภค

โทรศัพท์ 3.9G ให้เป็นวาระแห่งชาติ ช่วยประเทศไทยให้มีเงินค่าโทรศัพท์มือถือที่ทั้งประเทศใช้กันอยู่ร่วม 500,000 ล้านบาทต่อปี ได้หมุนเวียนอยู่ภายในประเทศ จะดีกว่าปล่อยให้เม็ดเงินจำนวนนี้ไหลออกนอกประเทศหลังจากหักค่าแรงงานแล้ว

ส่วนหลายท่านที่ไม่ทราบว่าปกติทุกเดือนจะมีค่าการตลาดมือถืออยู่ประมาณ 8,000 ล้านบาท ที่เม็ดเงินจำนวนนี้ไม่เคยคืนกลับมาสู่ผู้บริโภค ในมิติใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น ที่ SSN ที่มีท่านพลเอก พิเชษฐ์ วิสัยจร อดีตรอง ผบทบ. เป็นประธานนั้น นอกจากผู้ใช้โทรศัพท์ 3.9G กับ SSN จะมีโอกาสได้ใช้โทรฟรีในเครือข่ายเดียวกันตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว ยังได้ช่วยชาติ และได้แบ่งผลกำไรอีกมากกว่าเดือนละ 4 ล้านบาทต่อเดือนคืนกลับมายังผู้ใช้อีกด้วย

คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ต้องการเข้าร่วมโครงการ โดยคัดเลือกเฉพาะผู้ที่ต้องการคว้ารายได้เงินห้าแสนในระยะเวลาเพียง 8 สัปดาห์ จะต้องหาทีมงานที่ต้องการอย่างเดียวกันอีก 4 คน เข้ามาเป็นสมาชิกของ SSN และเข้ารับการอบรมติวเข้ม วิธีการปฏิบัติงาน ก่อนเริ่มทำงานสัปดาห์แรก พร้อมๆกันกับหัวหน้าทีมละ 5 คน โดยสมาชิก 4 คนที่ได้รับคัดเลือกเข้ามาร่วมโครงการ ต้องคัดสรรเพื่อนร่วมทีมในอุดมการณ์เดียวกันต่อไปอีกคนละ 4 คนให้ได้ภายใน 1 สัปดาห์ และมาเข้าร่วมติวเข้มก่อนลงปฏิบัติงานให้ได้อีกคนละ 4 คนใน 1 สัปดาห์ต่อไป ใช้หลักเกณฑ์เช่นนี้ต่อๆกันไปจนครบ 8 สัปดาห์

ในหลักการของแผนการตลาดไบนารี่ จะเกิดเครือข่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้นได้มากถึง 87381 คน ภายในเวลา 8 สัปดาห์ โดยทีมเริ่มแรก 1+4 ส่งทอดภารกิจเช่นเดียวกันออกไปแก่ทุกๆทีมที่หนุนเนื่องเพิ่มเข้ามาทุกสัปดาห์ ในโครงสร้างนี้หากร่วมงานกันสมบูรณ์ทั้งระบบจะมีผู้ได้รับ เมอซีเดสเบนซ์ 3 ราย

ผู้สนใจโครงการนี้ เพื่อจะเข้าอบรมเช้าวันเสาร์ รีบตัดสินใจแจ้งความจำนงค์ได้ที่คุณสมศักดิ์ ตามเบอร์โทรที่มุมล่างซ้ายของเว็บเพจนี้ ส่วนรายละเอียดต่างๆของ 3.9G TOT กับการตลาดของ SSN ท่านศึกษาได้จาก 'วาระแห่งชาติกับ 3.9G' ในกูเกิล และที่ลิงค์นี้

เชิญทุกท่านร่วมด้วยช่วยกัน....ส่งต่อข่าวสารแก่เพื่อนๆ มีโอกาสชมจิ๊กซอร์ต่างๆ สำหรับนักค้นหาสาระชีวิตต่อภาพส่วนตัว ทั้ง ด้านโลกียะและโลกุตระ ที่ ainews1.com จัดไว้บริการให้แก่เพื่อนทุกเพศวัยทุกคน ฟรี ที่ลิงค์ /article385.html Bookmark and Share

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

ประธานซีพีแนะรัฐขึ้นเงินเดือน

ประธานซีพี แนะรัฐขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 22,000 บาท

http://www.ainews1.com/article844.html

เพิ่งได้ข่าวสั้น แจ้งมาว่า ประธานของ ซีพี แนะให้รัฐบาลขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการเดือนละ 22,000 บาท ปรับค่าแรงงานขั้นต่ำเป็นวันละ 500 บาท เศรษฐกิจจะได้เติบโต...นั่นเป็นแนวความคิดของเจ้าของธุรกิจเงินทุนระดับโลก ท่านผู้อ่านเห็นด้วยไหมหรือไม่ก็แล้วแต่ ....มนุษย์เงินเดือน

แต่ในฐานะของกลุ่ม 'วาระแห่งชาติกับ 3.9G' นั้นเห็นว่าหากเราแก้ปัญหาให้เม็ดเงินไทยไม่ไหลออกนอกประเทศได้ปีละ 500,000 ล้านบาท และนำเม็ดเงินจำนวนั้นมาหมุนเวียนในประเทศอีก 10 รอบ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างดีทางหนึ่งทีเดียว ในขณะที่งบประมาณแผ่นดินมีเพียง 2.3 ล้านล้านต่อปีเท่านั้น หากมีเม็ดเงินเพิ่มเข้ามาในตลาดอีก 20% เศรษฐกิจย่อมจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับลดอัตราเงินเฟื้อลงไป หรือชลอให้อัตราเงินเฟื้อให้น้อยลงด้วย ในขณะเดียวกันยังมีเงินค่าการตลาดมือถืออีกเดือนละประมาณ 8,000 ล้านบาท สามารถเอามาแบ่งปันกันในระหว่างผู้ใช้มือถือกับ SSN จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างดีอีกทางหนึ่ง

การส่งเสริมให้ประชากรในประเทศใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เศรษฐกิจมันแก้ไม่ได้เป็นงูกินหาง แม้จะเพิ่มเงินเดือนซักเท่าไดก็สู้กับราคาสินค้าไม่ได้ ตกลงผู้ที่ไม่มีเงินเดือน เฉาตายกันพอดีพ่อค้ารวย ต้องพึ่งพาแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่พยายามส่งเสริมการใช้จ่ายแบบเดียวกับผู้มีเงินรายได้สูง หรือเลียนแบบอเมริกันใช้เงินพลาสติค ทุกคนต้องใช้จ่ายแต่พอตัว ให้พออยู่ได้ ดูอเมริกาเป็นตัวอย่างที่เลือกใช้เศรษฐกิจผิดทางของธรรมชาติ อดีตประธานาธิบดีคนหนึ่งของเขา บอกเอาไว้นานแล้ว เกือบ 200 ปี ถ้าอเมริกาเอาเศรษฐกิจทุนนิยมเสรีมาใช้ ต่อไปประเทศชาติล่มจมแน่ นี่กำลังไปเป็นแถว แก้อย่างไรก็ไม่ฟื้น อียูก็กำลังปั่นป่วน เยอรมันเองก็จะช่วยพยุงเอาไว้ไม่ไหว

อันที่จริงประเทศสหรัฐฯนี้เศรษฐกิจของเขาล่มไปแล้วตั้งแต่ 2008 ถึงปัจจุบันก็อาการไม่ดีทั้งภาคเอกชนและภาครัฐเอง พิมพ์ดอลลาร์ออกมาใช้โดยไม่มีหลักทรัพย์หรือทองคำค้ำประกัน เที่ยวบังคับให้นาๆประเทศต้องใช้ดอลลาร์เป็นสกุลเงินแลกเปลี่ยน ในการซื้อขาย แล้วมันจะเหลือมูลค่าที่แท้จริงที่ไหน จะกลายเป็นแบ๊งค์กงเต็กไม่รู้วันไหน ถ้าหากชาวอเมริกันไม่หลอกตนเอง ทองคำแท่งที่ให้ประเทศต่างๆนำไปฝากเอาไว้ ก็ไม่มีจะคืนให้เจ้าของ เรื่องกำลังฟ้องร้องเรียกคืนจากเจ้าของทองคำกันอยู่ในศาลที่นิวยอร์คในปัจจุบัน

ภาวะเศรษฐกิจทำท่าจะเข้าไปสู่ภาวะก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 วงจรเก่าๆกำลังจะกลับมาใหม่ต้นเหตุของมันก็มาจากความฟุ่มเฟือย มีประชากรไม่ถึง 300 ล้านคนแต่ใช้สินค้าของโลก ประเทศเดียว 60% ส่วนอีก 40% ที่เหลือแบ่งกันใช้ทั้งโลก มันเกินความจำเป็นไปขนาดไหน อย่าไปเอาแบบอย่างการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมาจากประเทศเหล่านี้เลย เราเป็นคนไทยอยู่แบบไทย อยู่กับทรัพยากรของเรา ใช้ของไทยกินของไทย ให้เงินทองหมุนเวียนอยู่ในประเทศ เข้าใจเรื่องนี้ให้ถูกต้องก็จะอยู่ได้สบายๆ...หากธรรมชาติไม่ยื่นมือเข้ามาจัดการก็จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 อีกแน่

บรรดาลูกหลานไทยจบอุดมศึกษาสาขาต่างๆออกมาปีละหลายแสนคน แต่หางานรองรับไม่ได้ นักศึกษาที่จบแล้วและที่กำลังจะจบใหม่ ไม่ต้องเรียนต่อให้เปลืองเงินทองของพ่อแม่ หรือของชาติ มาช่วยกันช่วยชาติใน 'วาระแห่งชาติกับ 3.9G'ได้เลย ถึงรัฐบาลจะปรับเงินเดือนให้ตามที่เจ้าสัวซีพีแนะนำก็ตาม มาช่วยกันขยายเครือข่ายผู้ใช้มือถือกับ กลุ่ม วาระแห่งชาติกับ 3.9G ก็จะมีรายได้มากกว่าหลายเท่าของอัตราเงินเดือนที่เจ้าสัวแนะนำ และผู้ใช้มือถือทั่วทั้งประเทศก็มาช่วยชาติได้ หันมาใช้ 3.9G ของ ทีโอที กระทรวงการคลังถือหุ้น 100% เงินค่ามือถือจะได้ไม่ไหลออกนอกประเทศปีละหลายแสนล้านบาท

ชาวไทยที่ใช้มือถือทุกท่าน ลองศึกษาทำความเข้าใจ กับความเป็นจริงของชาติ แล้วจะพบว่าปัญหาของชาติ ต้องใช้คนในชาติที่เกิดปัญญาแล้ว เข้ามาช่วยกันแก้ไข จึงจะสำเร็จ 3.9G ของ ทีโอที กับ SSN บริษัทคนไทย ที่มีท่านพลเอก พิเชษฐ์ วิสัยจร เป็นประธาน มีอุปกรณ์การตลาดสมัยใหม่ พร้อมให้ผู้รักชาติทุกหมู่เหล่าเข้ามาร่วมใช้ ร่วมรับรายได้ค่าการตลาด ช่วยชาติประหยัดเงินค่ามือถือไม่ต้องไหลออกนอกประเทศ ทุกคนมาร่วมพลังสามัคคีกันให้พร้อมเพรียง รวดเร็ว ไม่ต้องรอจนกระทั่งโครงข่ายบริการ 3.9G แล้วเสร็จ 1 มิถุนายน แต่อย่างใด

เชิญทุกท่านร่วมด้วยช่วยกัน ....ส่งต่อข่าวสารแก่เพื่อนๆ มีโอกาสชมจิ๊กซอร์ต่างๆ สำหรับนักค้นหาสาระชีวิตต่อภาพของตนเอง ทั้งด้านโลกียะและโลกุตระ ที่ ainews1.com จัดไว้บริการให้แก่เพื่อนๆทุกเพศวัยทุกคน ฟรี ที่ลิงค์ /article385.html Bookmark and Share

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

เิอาสมบัติพ่อแม่คืนมา

เอาสมบัติพ่อแม่คืนมา

http://www.ainews1.com/article840.html

กำลังเกิดอะไรขึ้นกับพี่น้องชาวอเจนติน่า และชาวบราซิล ที่คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่มีกินมีใช้ ไม่มีบ้านจะอยู่ ต้องนอนข้างถนน ไม่มีน้ำจะอาบ ไม่มีไฟฟ้าจะใช้ โทรศัพท์นั้นไม่ต้องพูดถึง...น่าสงสารประชาชนเหล่านี้อย่างยิ่ง ไม่สามารถช่วยตนเองให้มีชีวิตอย่างปกติสุขได้ ชีวิตไม่มีความหวัง ไม่รู้จะนอนที่ไหน ไหนอากาศยังหนาว ท้องก็หิว

ต้นเหตุที่พี่น้องร่วมโลกใน 2 ประเทศนี้ต้องผจญชะตากรรมที่น่าสงสารเหล่านี้ เนื่องจากผู้บริหารประเทศคอร์รัปชั่นกันอย่างมโหฬาร จนเศรษฐกิจประเทศล่มจม ต้องขายสมบัติชาติ เช่น น้ำ ไฟ โทรศัพท์ ต่างๆเหล่านี้ ออกไปให้แก่นายทุนข้ามชาติ เข้ามาซื้อในราคาถูกๆ แล้วนำไปบริหารขึ้นราคาค่าบริการตามชอบใจ ทั้งๆที่สมบัติเหล่านี้เป็นสมบัติของชาติของแผ่นดินแท้ๆ รัฐจะต้องเก็บเอาไว้ในรัฐวิสาหกิจ ช่วยให้ประชนของตนมีใช้ในราคาไม่แพง ไม่ต้องเอากำไรมาก เพียงพอให้องค์กรรัฐวิสาหกิจนั้นทรงตัวอยู่ได้ ก็เพียงพอแล้ว ประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่จะได้เข้าถึงในปัจจัยสี่ ได้ทั่วถึง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเมืองใหญ่ๆ จะไปอาศัยน้ำในลำธารที่ใสสะอาดอย่างในต่างจังหวัดได้ที่ไหน ต้องพึ่งพาแต่น้ำประปาเท่านั้น เมื่อน้ำประปาต้องมีราคาแพง เกินความสามารถของประชาชน จะซื้อหามาใช้ได้ จึงสร้างความทุกข์อย่างยิ่งให้เกิดแก่ประชาส่วนใหญ่ที่ปกติก็มีสภาพเศรษฐกิจไม่มั่นคงอยู่แล้ว.....แล้วกิจการโทรศัพท์ก็เป็นสิ่งจำเป็นของประชาชนทั้งประเทศ ที่ควรเป็นของรัฐวิสาหกิจ เช่น บจม.ทีโอที ที่กระทรวงการคลังถือหุ้น 100% ไม่ต่างจาก ทีโอที เป็นสมบัติพ่อแม่ของทุกคนในชาติ

ท่านอ่านมาถึงตรงนี้ จะนึกถึงพี่น้องชาวไทย 60 กว่าจังหวัดที่ถูกน้ำท่วมอยู่หลายเดือน บ้านไม่มีจะอยู่ หลังน้ำลดลงเป็นปกติแล้ว จะเอาเงินทองที่ไหนมาซ่อมแซม เกิดความทุกข์อย่างยิ่งทีเดียว อาหารการกินที่เพาะปลูกไว้ก็ถูกน้ำท่วมเสียหายสิ้น ปลูกผักก็ต้องรออีก 45 วันจึงจะได้รับประทาน ข้าวล่ะ ต้องใช้เวลาปลูกใหม่อีก 4 เดือนเป็นอย่างน้อย แล้วพันธุ์ข้าวล่ะ ปุ๋ยล่ะ เงินทั้งนั้น ส่วนปากก็ต้องหาให้กินทุกมือ

หวังพึ่งใครไม่ได้ นอกจากช่วยตนเองให้อยู่รอดและดีขึ้นเท่านั้น ผู้ที่ไม่ถูกน้ำท่วมทั้งหลายให้พากันเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องเหล่านี้โดยด่วน ให้ทุกๆครอบครัวมองเห็นแสงสว่างที่จะมีชีวิตสืบไป และยังมีส่วนเข้ามาช่วยชาติ นำสมบัติของแผ่นดินกลับมาอยู่ในหมู่ชาวไทย เพื่อลูกหลานภายหน้าจะได้มีกินมีใช้ ไม่เป็นอย่างลูกหลานประชาชน ที่น่าสงสารอย่างในอาเจนติน่าและบราซิล

มีเสียงแย้งขึ้นมาทันทีว่า แล้วจะเอาอะไรไปช่วยเขา....ถูกต้อง จะไปช่วยเขาให้มีรายได้เลี้ยงปากท้อง ให้มีชีวิตที่พอเพียงแก่อัตภาพ ต้องมีอุปกรณ์ไปบอกให้เขาได้มีโอกาสใช้อย่างง่ายๆ ให้เขาลงทุนเล็กน้อยสัก 2-3 เดือน พอพ้นเดือนแรกไป เขาก็จะค่อยๆมีรายได้คืนกลับมา 3 เดือนไปแล้วเขาก็พอจะหายใจคล่องขึ้น มีความหวังในชีวิตมากขึ้น...โดยให้พวกเขามาเข้าระบบการตลาด 3.9G กับ SSN ซึ่งมีท่านพลเอก พิเชษฐ์ วิสัยจร เป็นประธาน

เปิดโอกาสให้เขามาเป็นสมาชิกกับ SSN ลงทุนครั้งแรก 750 บาทเป็นสมาชิกตลอดชีพและรับซิมโทรศัพท์เอาไว้ใช้ได้ตลอดไป 1 ซิม และชำระค่าแอร์ไทม์ของเดือนนั้นอีก 500 บาท ตกลงการเข้าระบบครั้งแรกกับ SSN เขาจะจ่าย 1,250 บาท แล้วช่วยให้เขาบอกต่อเพื่อนๆอีกข้างละซัก 10 คน ให้ทุกคนทำอย่างเดียวกันต่อๆไปทุกสัปดาห์ สัปดาห์ที่ 3 ที่ 4 เขาก็จะเริ่มมีรายรับเข้าบัญชี ในขณะที่เราใช้อินเทอร์เน็ต อยู่ในฐานะที่มีความสะดวกกว่า ก็ช่วยกันเพิ่มจำนวนสมาชิกเข้ามาหนุนเนื่องให้แก่สมาชิกน้ำท่วมเหล่านี้ ให้เขามีรายได้เต็มเพดานเร็วๆ มีสมาชิกเข้ามาข้างละ 200,000 ซิม จากจำนวนที่ยังไม่ได้เข้ามาทั้งประเทศอีกนับ 90 ล้านซิม เขาก็จะได้รับเงินจากระบบการตลาดของ SSN เดือนละ 4 ล้านบาททุกๆเดือน โดยย้ำให้เขาทราบว่าจะต้องใช้เงิน 500 บาทกระตุ้นระบบทุกเดือน และใช้ค่าแอร์ไทม์ในการกระตุ้นระบบนี้ สำหรับโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต ระบบการตลาดของ SSN จึงจะทำงานคิดเงินปันผลให้ในแต่ละเดือน

ส่วนใหญ่พี่น้องประชาชนเหล่านี้ จะไม่มีโอกาสที่จะทราบข่าวทางอินเทอร์เน็ต แต่ทุกๆสถาบัน ทุกๆองค์กร ที่ได้เป็นสมาชิกของ 'วาระแห่งชาติกับ 3.9G' โดยเจาะจงเลือกมาช่วยกันทำภารกิจชาติ จะได้ทราบข่าวนี้ก่อน ว่าใน กูเกิล มีเงินค่าการตลาดมือถือทั้งประเทศอยู่ประมาณเดือนละ 8,000 ล้านบาท รอให้ทุกคนเข้าไปกอบไปโกยเอาตามที่ใจตนต้องการ จะเป็นผู้นำโอกาสไปให้พี่น้องที่ถูกน้ำท่วมในจังหวัดนั้นๆอย่างทั่วถึงรวดเร็ว โดยปากต่อปาก หมู่บ้านต่อหมู่บ้าน ตำบลต่อตำบล อำเภอต่ออำเภอ จังหวัดต่อจังหวัด นำรายได้และช่องทางแก้ปัญหาปากท้องใครเลยจะไม่ยินดียอมรับ ตัดสินใจเข้ามามีส่วนแบ่งค่าการตลาดเดือนละ 8,000 ล้านบาทกับเขาบ้าง ในยุค Transformation ของโลก อะไรๆที่คนคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

ตามธรรมดาสมาชิกขององค์กรใดๆก็ตาม ย่อมจะคิดถึงองค์กรของตนให้มีความมั่นคงทางการเงินพอสมควร ก็สามารถเอาโอกาสนี้ใน กูเกิล ไปหารือกับ คณะกรรมการ หรือผู้บริหารองค์กรนั้นๆให้ทราบ และศึกษาให้เข้าใจว่าโอกาสเช่นนี้ จะช่วยกันนำเอาทรัพย์สมบัติของพ่อแม่คืนกลับมาอยู่ในมือของคนไทยได้อย่างไร ให้พากันมาใช้มือถือของ 3.9G ของ ทีโอที ให้ครบ 90 ล้านซิมโดยเร็ว ก่อนสิ้นเดือนพฤษภาคม 2555 นี้ยิ่งวิเศษ แล้วบอกต่อเพื่อนๆรอบตัวเรา ให้เร่งเข้ามาทำวาระแห่งชาติกับ 3.9G โดยด่วน ให้ทั่วประเทศ ใครอยู่จังหวัดไหน เป้าหมายขั้นแรกให้ทราบโอกาสเข้ามา ใช้ 3.9G ทั้งหมู่บ้าน ทั้งตำบล แล้วขยายไปทั้งอำเภอ และแล้วทั้งจังหวัดโดยเร็ว ในวิธีการต่างๆร่วมกับอินเทอร์เน็ต ปฏิบัติภารกิจชาติร่วมกับพันธมิตรอย่าง กูเกิล แล้วกำชับว่าเมื่อทราบรายละเอียดต่างๆที่ต้องการแล้ว ให้ส่งข่าวกลับมาที่เรา จะได้แนะนำต่อว่าจะสมัครได้อย่างไร มาอยู่ร่วมทีมเดียวกับเรา ช่วยกันทำภารกิจชาติร่วมกันเป็นทีม

ถึงแม้ว่าปัจจุบันยังไม่สะดวกในการสมัครออนไลน์ก็ตาม เราก็ไม่รั้งรอ เช่นถ้าอยู่ต่างจังหวัด ก็ใช้ตัวแทนมาซัก 1รถตู้ มาสมัครก่อนที่ กทม. ที่ SSN ชั้น 4 อาคารวินวินทาวร์เวอร์ ถนนรัชดาภิเษกเยื้องๆกับตึกช้าง มาทางด้าน ม.จันทร์เกษม มาบันทึกเสียงการบรรยายของที่ปรึกษาของ บริษัทไปให้คนทางบ้านฟังพร้อมกับรับฝากมาซื้อใบสมัครกลับไปให้ด้วย แล้วค่อยส่งมาให้บริษัททำการคีย์รหัสเข้าระบบต่อไป

หากท่านเลือกมาบ่ายวันอังคาร หรือพฤหัสฯ ให้มาถึง SSN ซักบ่าย 4 โมงเย็นทานข้าวเย็นมาให้เรียบร้อย นำสำเนาบัตรประชาชน 2 ใบ และสำเนาสมุดเงินฝากหน้าแรก ธนาคารใดธนาคารหนึ่งในสี่แห่ง เช่น ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ และทหารไทย แห่งใดแห่งหนึ่ง 1 สำเนา ตกลงใช้เอกสาร 3 ชิ้นต่อการสมัคร 1 รหัสของตัวเรา หากเราเป็นลูกกตัญญู เราก็เอาหลักฐานของคุณพ่อคุณแม่มาสมัครพร้อมกับเราด้วย ในรหัสที่ 2 รหัสที่ 3 มีตัวเราเป็นผู้แนะนำ (ใช้รหัสในชั้นบนแนะนำรหัสใหม่ๆในชั้นล่างของแต่ละชั้น 1แนะนำ 2 เพื่อกระจายรายได้ในองค์กรส่วนตัว และทำคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของ SSN) โดย SSN ยอมให้เราจัดตั้ง Platform รองรับรายได้ ได้เพียงครั้งเดียวเมื่อตัดสินใจสมัคร เป็นกลุ่มก้อนสำหรับครอบครัว หรือตั้ง Platform รองรับรายได้ขององค์กรขนาดใหญ่ ที่ต้องการรายได้เดือนละเป็นร้อยๆล้านบาทขึ้นไป ลงทุนน้อยใช้เวลาคืนทุนเร็ว และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากเงินค่าการตลาดมือถือ มาให้แก่องค์กรของตน เป็นค่าตอบแทนในการมาร่วมทำภารกิจช่วยชาติเอาสมบัติของพ่อแม่คืนกลับมา

ดีกว่าปล่อยให้บริษัทข้ามชาติมากอบโกยทั้งค่าการตลาด และค่าแอร์ไทม์ออกไปนอกประเทศทุกๆเดือน ...หากปล่อยเอาไว้เช่นนี้ โอกาสอย่างที่ประชากรส่วนใหญ่ของอาเจนติน่า และบราซิล ต้องเผชิญชะตากรรม มันก็มีโอกาสมาถึงประเทศย่านตรงข้ามโลกเช่นแถบเอเชียนี้ได้เช่นเดียวกัน หากประชาชนภายในชาติ เอาแต่ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างใช้โทรศัพท์ของบริษัทข้ามชาติที่มาซื้อสัมปทานไปจากคนไทยบางคน หรือแอบขายสัมปทานที่คนไทยได้รับนำไปขายต่อให้แก่บริษัทข้ามชาติ.....โดยคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีส่วนได้รับรู้มาก่อน

องค์กรขนาดใหญ่ที่ทราบโอกาสแล้ว รวมทั้งบริษัทต่างๆ ที่มีสำนึกรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สามารถสมัครเข้ามาจัดเตรียม Platform รองรับรายได้รหัสละ 4 ล้านบาทได้มากถึง 63 รหัสให้ครบ 5 ชั้นลึก แล้วจึงขยายงานจากใต้ชั้นที่ 5 ลงไปให้เต็มที่ละชั้น โดยให้ยอดจำนวนซิมสองข้างของแต่ละรหัสในชั้นที่ 5 มีจำนวนเท่าๆกัน หรือใกล้เคียงกันทั้ง 32 รหัสในชั้นที่ 5 ต้องการเพิ่มเครือข่ายสมาชิกข้างละ 200,000 ซิม จากความต้องการซิมในประเทศที่เหลืออยู่อีกประมาณ 90 ล้านซิม โดยแจกจ่ายภารกิจ ให้รหัสซ้ายสุดและขวาสุดทีละคู่ ไล่เข้าหาตรงกลาง ให้เต็มทีละชั้น หากทำอย่างมืออาชีพมีอุปกรณ์ช่วยขยายงานหลายอย่างพร้อมๆกัน ทุกรหัสก็จะมียอดผู้ใช้ครบ 200,000 ซิม แต่ละข้างใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือน

ให้เวลา 3 เดือนบางท่านก็อาจจะบอกว่านานไปเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากทุกๆองค์กรและทุกๆคนสามารถนำเอาโอกาสเช่นนี้ไปบอกกับเจ้าของกิจการต่างๆ องค์กรขนาดใหญ่ต่างๆที่มีสมาชิกภายในองค์กรของตนอยู่มากมายทั่วประเทศอยู่แล้ว ระดมบอกโอกาสออกไปพร้อมๆกันทางอินเทอร์เน็ต ใครๆก็ต้องการโอกาสเข้ามาใช้โทรศัพท์ฟรี และมีรายได้เป็นกอบเป็นกำกลับมาทุกคน และยังได้มีโอกาสช่วยชาติอีก ช่วยกันเอาสมบัติพ่อแม่กลับคืนมาในเวลาที่รวดเร็วดุจสายฟ้า ด้วยพลังสามัคคีของคนในชาติ ที่ได้เข้าใจผลดีผลเสีย ที่เกิดขึ้น

ยากที่ทุกคนจะปฏิเสธผลดีที่เกิดขึ้นแก่ชาติ แก่ตนเอง และแก่ครอบครัวได้อย่างรวดเร็วก่อนที่ ทีโอที จะติดตั้งโครงข่ายกระจายสัญญานเสร็จครอบคลุมทั้งประเทศด้วยซ้ำไป ยกเหตุผลที่จะรอจนกว่าให้เครือข่ายสัญญานของ ทีโอที เสร็จเรียบร้อยทั้งประเทศ แล้วจึงค่อยเข้ามาใช้ 3.9G นั้น คนที่ความคิดเช่นนี้มีนับหัวได้เท่านั้น ไม่ควรปล่อยให้บริษัทข้ามชาติมากอบโกยค่าใช้มือถือของคนไทยออกไปทุกเดือน เดือนละหลายหมื่นล้านบาท...จากที่เคยใช้ถนน 2 เลนที่แน่นขนัดระบบล่มไปหลายคราว แล้วทำไมไม่หันมาใช้ถนน 12 เลนที่การจราจรคล่องตัว ทำความเร็วได้ 42 Mbps เล่า

คนในองค์กรเดียวกันจะเข้าใจกันได้รวดเร็วมาก เปิดโอกาสให้ทุกคนในองค์กร มาทำ วาระแห่งชาติกับ 3.9G กันอย่างน้ำไหลไฟสว่างกันเลยทีเดียว ส่วนในรายละเอียดของผู้ที่ชอบค้นหาทุกซอกมุมว่า บทบาทของ 3.9G นั้นเป็นมาอย่างไร และจะมีบทบาทสำคัญต่อประเทศชาติต่อไปอย่างไร พันธมิตรธุรกิจอย่าง กูเกิล ก็พร้อมให้เข้าไปศึกษารายละเอียดอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว แต่ว่ากันที่จริงผู้ที่ทราบโอกาสแล้วตัดสินใจเข้ามาลุยเดินหน้าโดยทันที จะไปเร็วกว่าประเภทคนช่างค้น กว่าตนเองจะตั้งต้นได้ พวกแรกๆไปไกลแล้ว ไม่ต่างกับผู้ที่เห็นฝูงปลาอยู่เต็มทะเลอยู่ตรงหน้า คว้าอุปกรณ์มาได้ก็ลงมือจับปลาทันที ส่วนประเภทที่กำลังวางแผนหลายๆอย่างอยู่ อาจไม่มีโอกาสจะจับปลาฝูงนั้นแล้ว ต้องรอโอกาสใหม่ เนื่องจากเฝ้าแต่สงสัยอยู่ว่าจะใช้อุปกรณ์ชิ้นไหนจับปลาดี และสงสัยว่ามันจะใช้ได้ผลดีจริงหรือไม่

โดยไม่ได้เฉลียวใจว่า คนคิดออกแบบติดตั้งอุปกรณ์การตลาดอย่าง SSN ที่มีท่านพลเอก พิเชษฐ์ วิสัยจร อดีตรอง ผบทบ. เป็นประธานนั้น ได้ทำงานอย่างหนักมาล่วงหน้านานแล้ว จึงออกมาเป็นอุปกรณ์ใช้ง่ายๆได้ผลดีอย่างกว้างขวางแก่ทุกๆคน และได้ลงทุนไปหลายสิบล้านแล้ว ย่อมต้องแน่ใจว่าเครื่องมือต่างๆใช้ได้ผลอย่างแน่นอน มิฉะนั้นทาง ทีโอที ก็จะไม่พิจารณาเซ็นสัญญาแต่งตั้งให้เป็นตัวแทน ขยายเครือข่ายลูกค้า 3.9G ให้แก่ ทีโอที ไปทั่วประเทศ แล้วนำรายได้ค่าการตลาดส่วนหนึ่งมาแบ่งให้แก่ SSN และสมาชิก แทนที่จะนำไปลงทุนตั้ง Shop หรูๆที่เห็นอยู่ทั่วประเทศไล่ต้อนลูกค้าเข้าในค่ายของตน

เชิญทุกท่านร่วมด้วยช่วยกัน....ส่งต่อข่าวสารแก่เพื่อนๆ มีโอกาสชมจิ๊กซอร์ต่างๆ สำหรับนักค้นหาสาระชีวิตต่อภาพของตนเอง ทั้ง ด้านโลกียะและโลกุตระ ที่ ainews1.com จัดไว้บริการให้แก่เพื่อนๆทุกเพศวัยทุกคน ฟรี ที่ลิงค์ /article385.html Bookmark and Share

วันเสาร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2555

เถ้าแก่ใจกว้าง

เถ้าแก่ใจกว้าง

http://www.ainews1.com/articcle834.html

โลกยุค Transformation เถ้าแก่ทั้งหลาย ต้องใจกว้าง เนื่องจากกระแสโลกของความเปลี่ยนแปลงเดินหน้าไม่หยุด จนกระทั่งสถานะความเป็นมนุษย์จะเสมอๆกัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันอีกต่อไป ในที่สุดจะเหลือแต่คนใจกว้างถึง 89 % ในสังคมโลก โลกก็จะปรับขึ้นเป็น 4th Density ตามพระอาทิตย์ไป

ส่วนเถ้าแก่ทั้งหลาย มีใจกว้างเป็นทุนเก่าอยู่แล้ว เถ้าแก่ในที่นี้หมายรวมเอาเจ้าของบริษัททั้งหลาย องค์การสมาคมต่างๆ ที่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน แม้แต่ชมรมศิษย์เก่านาๆชนิดก็ดี ทุกๆแห่งล้วนยังต้องอาศัยเงินทุนหมุนเวียน ในกิจการของตน และภายในสมาคมของตน และในชมรมต่างๆ การเพิ่มกองเงินทุนสำรองสำหรับให้หน่วยงานต่างๆมีพอ ไม่ต้องรบกวนจากสมาชิก ในรูปแบบจัดงานต่างๆ ทางองค์กรนั้นๆสามารถนำเงินสำรองออกมาใช้จ่ายได้อย่างเพียงพอ แม้แต่นำเงินกองกลางไปช่วยสังคมที่ขาดแคลนในรูปแบบต่างๆ ให้พี่น้องชาวไทยที่ขาดโอกาส หรือยังเอื้อมมือไม่ถึงได้มีกินมีใจตามอัตภาพ ไม่ต้องหน้าเหี่ยวหน้าแห้ง ไร้ความสุข

ส่วนช่องทางโอกาส ที่ทุกฝ่ายที่ใช้มือถือ สามารถนำตนเอง และองค์กรของตัว หรือบริษัทของตน เข้ามาร่วมแบ่งรายได้ค่าการตลาดมือถือทั้งประเทศ ซึ่งมีมูลค่าประมาณเดือนละ 8,000 ล้านบาท หากทุกคนเข้ามาเอาเงินค่าการตลาดก้อนนี้มาแบ่งปันกันในกลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มผู้ที่เข้ามาเป็นเจ้าของธุรกิจ กับระบบการตลาด อีเล็คโทรนิคส์ของ SSN ที่มีท่านพลเอก พิเชษฐ์ วิสัยจร เป็นประธาน ได้ลงทุนติดตั้งระบบการตลาดดังกล่าวเอาไว้ให้สมาชิก เจ้าของธุรกิจส่วนตัวทุกท่าน เข้ามาใช้ร่วมกัน และพร้อมใจกันทั้งประเทศเข้ามาร่วมใช้บริการ 3.9G TOT กับระบบการตลาดของ SSN ซึ่งจะบริหารมูลค่าการตลาด นำมาแบ่งกันระหว่างสมาชิกในบริษัท และ SSN ให้ทุกๆฝ่ายมาร่วมทำวาระแห่งชาติ 3.9 G TOT ร่วมกับ SSN

โอกาสตรงนี้เปิดให้เถ้าแก่ทุกระดับ ที่ต้องการเพิ่มรายได้ให้แก่พนักงานในบริษัท พร้อมกับมาช่วยชาติประหยัดเงินป้องกันไม่ให้ไหลออกนอกประเทศปีละมหาศาล โดยที่บริษัทเองไม่ต้องควักกระเป๋า แถมทางบริษัทที่เป็นต้นสายของพนักงานเป็นร้อยเป็นพันที่ต่างใช้มือถือ ยังมีรายได้ของตนเองจากส่วนแบ่งมูลค่าการตลาดมือถืออีกด้วย มากน้อยแล้วแต่วิสัยทัศน์ของเถ้าแก่นั้น จะมองเห็นช่องทาง ทะลุปรุโปร่งหรือไม่เท่านั้น พนักงานทุกคนต่างมีเพื่อนๆนอกบริษัท และญาติพี่น้องอีกมากกว่า 10 คนที่จะมีโอกาสมาใช้บริการโทรฟรีกับ SSN 24 ชั่วโมงบนเครือข่ายเดียวกัน และยังมีเงินทอนจากระบบกลับมาให้อีกด้วย พร้อมทั้งมีเงินกองทุนสวัสดิการอีกหลายรูปแบบให้แก่สมาชิกที่เสียชีวิต และช่วยเหลือสังคม

ในนโยบายช่วยเหลือสังคมนี้ แต่ละสมาชิกหรือองค์กร สามารถนำไปประยุกต์จัดรูปแบบสวัสดิการผู้เสียชีวิต อุปถัมภ์แก่ผู้ที่ขาดญาติพี่น้องเอาใจใส่ให้มีชีวิตที่น่ารื่นรมณ์ร่วมกันได้อีกด้วย เมื่อเขาถึงแก่อายุขัย เงินค่าทำศพก้อนโตที่เหลือเอาไว้ให้แก่ผู้ที่ให้การอุปถัมภ์ค้ำชู ให้ชีวิตของเขาในบั้นปลายมีความสุข และอบอุ่นได้อย่างดีอีกด้วย โดยระบบการตลาดของ SSN จะช่วยเหลือทุกๆคนที่เข้ามาทำกิจกรรมตรงนี้ จากกองทุนสวัสดิการ ที่โตเพิ่มขึ้นทุกๆเดือน เอาไว้เกื้อกูลแก่สมาชิกที่วายชนม์แต่ละเดือนเฉลี่ยแบ่งกัน

นอกจากนี้บรรดาเถ้าแก่ทั้งหลาย มีเถ้าแก่เพื่อนๆที่ทำธุรกิจสัมพันธ์กันอยู่แล้ว ก็สามารถแบ่งปันโอกาสนี้ห้แก่ทุกๆคนได้อีกด้วย โดยนำมาอยู่ในทีมงานเดียวกัน ต่างคนต่างมีรายได้จากระบบการตลาดของ SSN ด้วยกัน ช่วยกันทำให้เงินรายได้มือถือทั้งประเทศประมาณ 500,000 ล้านต่อปี ไม่ต้องถูกนำออกนอกโดยชนต่างชาติ

ดังนั้นการเป็นคนใจกว้างจะทำให้ประเทศชาติมั่นคงเพิ่มขึ้น ลูกหลานมีกินมีใช้ไม่ฝืดเคือง เฉพาะเงินรายได้ในกิจการมือถืออย่างเดียว มากกว่าตลาดอาหารเสริมทั้งประเทศประมาณ เกือบ 10 เท่า

ว่าอันที่จริงเมื่อเถ้าแก่ได้มาเข้าระบบกับ SSN แล้ว แนะนำลูกค้าและพนักงานในระยะสั้นๆ ทีมงานเหล่านี้ที่ได้รับโอกาส เขาจะทำงานต่อๆกันไปเป็นระบบ เถ้าแก่ก็จะเบาแรงไม่ต้องเหนื่อยยากสักเท่าใด ได้ช่วยประเทศชาติให้มีเงินหมุนเวียนอยู่ภายในประเทศปีละหลายแสนล้านบาทเพิ่มเข้ามา

จึงฝากข้อเสนอแนะนี้เอาไว้ให้แก่ทุกๆวงการที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น ได้เข้ามาช่วยชาติทำวาระแห่งชาติ 3.9G กับ SSN ร่วมกันโดยเร็วอย่างไม่มีเงื่อนไขชักช้าใดๆอีกต่อไป ประเทศชาติกำลังรอวันเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมที่เกื้อกูลกันทุกวงการ ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ ท่านพลเอก พิเชษฐ์ วิสัยจร ก็ได้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ประโยชน์ร่วมกันเอาไว้ให้แล้ว

จึงหวังให้ทุกวงการ เข้ามาร่วมเปลี่ยนถ่ายการใช้มือถือมาเป็น 3.9G ทั่วกันโดยเร็ว ภายในเดือน พฤษภาคม 2555 ให้หมดทั้งประเทศ

หากเถ้าแก่ทุกท่านได้ใช้เวลาศึกษา และพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ด้วยใจเป็นกลาง ทุกๆฝ่ายในสังคมไทยต่างจะได้รับสวัสดิการจากมูลค่าการตลาดมือถือเดือนละ 8,000 ล้านบาทได้ส่วนหนึ่งช่วยแบ่งเบาภาระของรัฐบาล เป็นความเหมาะสมในยุค Transformation ของโลกอย่างแท้จริง และเมื่อท่านได้เข้ามาร่วมทำวาระแห่งชาติ กับ 3.9G กับ SSN ครั้งนี้ จะเป็นผลงานเพื่อชาติที่ทุกคนจะภาคภูมิใจได้อย่างหนึ่งทีเดียว

เชิญทุกท่านร่วมด้วยช่วยด้วยกัน....ส่งต่อข่าวสารแก่เพื่อนๆ มีโอกาสชมจิ๊กซอร์ต่างๆ สำหรับนักค้นหาสาระชีวิตต่อภาพส่วนตัว ทั้ง ด้านโลกียะและโลกุตระ ที่ ainews1.com จัดไว้บริการให้แก่เพื่อนทุกเพศวัยทุกคน ฟรี ที่ลิงค์ /article385.html Bookmark and Share

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

ความเป็นมาของพระธาตุแสงแก้ว_ทุ่งหัวช้าง

ความเป็นมาพระธาตุแสงแก้ว- ตำบลทุ่งหัวช้าง

http://www.ainews1.com/article833.html

บอกเล่าโดยพ่อครูจรูญ สุริยวงศ์

เรื่องราว เกิดที่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 8 ตำบลทุ่งหัวช้าง อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน

ในปลายเดือนมีนาคม 2543 หลังจากที่แม่บัวเขียว สุริยวงศ์ คุณแม่ของข้าพเจ้า (อาจารย์จรูญ สุริยวงศ์) ไหว้พระสวดมนต์ เจริญสมาธิ ภาวนา ประจำวันแล้ว ท่านได้สังเกตเห็นแสงสว่างเป็นดวงเล็กๆ ขนาดหัวมือได้ลอยไปมา

ช้าๆ มีแสงสวยคล้ายแสงหิ่งห้อย

เพียงแต่มีขนาดโตกว่าหิ่งห้อยมากและไม่กระพริบเหมือนหิ่งห้อย ดวงแสงกลมๆ นั้นลอยไปมาอยู่นานพอสมควร ทำให้ในห้องโถงบ้านสว่างไสว พอมองเห็นอะไรได้ ท่านรู้สึกแปลกใจว่าเป็นอะไรกันแน่ แต่ใจก็มิได้นึกกลัว ท่านได้ตั้งสติพนมมือกล่าวคำอธิษฐานเบาๆว่า

'สาธุ ถ้าหากสิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นนี้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอได้โปรดสำแดงอภินิหาร ด้วยเถิด' หลังคำอธิษฐาน ดวงแสงกลมๆ ได้ขยายขนาดประมาณผลส้ม แล้วเปล่งประกายแสงพวยพุ่งออกมาหลายสีสวยงาม ท่านเองถึงกับตะลึงงันไปชั่วขณะ ท่านก็ส่งเสียงเรียกปลุกให้ข้าพเจ้าและภรรยาตื่น ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นตกใจและรีบออกมาแต่ปรากฏว่าไม่ทันได้เห็นแสงประหลาดดังกล่าว ข้าพเจ้าถามคุณแม่ว่า 'อะไรครับแม่' ท่านตอบว่าไม่ทราบ แต่น่าจะเป็น 'พระธาตุเด็จ' หลายวันต่อมา ข้าพเจ้าได้ไปทำความสะอาดโต๊ะหมู่บูชา และได้พบก้อนหินลักษณะกลมขนาดเท่าหัวแม่มือ สีขาวขุ่น มีเส้นลายและจุดเล็กทั่วไป คิดว่าน่าจะเป็นลูกแก้วของเด็กชายเอก น้องชายคนเล็กของภรรยาข้าพเจ้า ที่มาจากจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้นำออกมาจากโต๊ะหมู่บูชา ไปใส่กระป๋องรวมกับลูกแก้ว 3 วันต่อมา ท่านแม่ยายก็พาน้องชายกลับไปบ้านที่จังหวัดสมุทรสาคร ตอนขนของขึ้นรถ ข้าพเจ้ายังได้ถือกระป๋องใส่ลูกแก้วพร้อมทั้งก้อนหินนั้นไปส่งด้วย เป็นอันว่า ก้อนหินนั้นเดินทางไปไกลถึงสมุทรสาครแล้ว

ปลายเดือนมีนาคม 2546 ระยะเวลาห่างกัน 2 ปีเต็ม ได้เกิดเหตุการณ์ซ้ำสอง ในตอนดึกสงัด ได้ยินเสียงคุณแม่ คือ คุณแม่บัวเขียว สุริยวงศ์ เรียกปลุก ข้าพเจ้าสะดุ้งตื่นแล้วรีบปลุกทันที พอโผล่พ้นประตูห้องนอนก็ต้องตะลึงงันกับแสงสว่างงดงาม รู้สึกขนลุกทั้งตัวด้วยความปีติ ดวงแสงนั้นค่อยๆ ลอยๆไปทางโต๊ะหมู่บูชาแล้วแสงลดขนาดลงแล้วดับไป อีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ข้าพเจ้าได้ไปทำความสะอาดโต๊ะหมู่บูชาก็ไปพบก้อนหินกลมๆ ก้อนเดิมอีก พิจารณาดูเท่าไหร่ก็เหมือนก้อนเดิม แต่ก็แปลกใจว่าได้ส่งไปสมุทรสาครตั้ง 2 ปีแล้ว ทำไมมาอยู่ที่นี่อีก และหรือชะรอยว่าก้อนหินนี้จะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีแสงสว่างในคืนก่อน จึงได้นำใส่ไว้ในเบ้าเชิงเทียน บนโต๊ะหมู่บูชา

หลายวันต่อมา ขณะที่ภรรยาของข้าพเจ้าได้ไปทำความสะอาดโต๊ะหมู่บูชาแล้วทำหน้าตื่นลงมาหา แล้วถามข้าพเจ้าว่า 'คุณเห็นอะไรแปลกๆที่โต๊ะหมู่บูชาไหม?' ข้าพเจ้าเข้าใจทันทีว่าหมายถึงอะไร จึงตอบว่า 'เห็น' ภรรยาถามอีกว่า 'ใช่ไหม?' ข้าพเจ้าตอบว่า 'สงสัย' การที่ภรรยาถามว่าใช่ไหมนั้น หมายถึงพระธาตุเสด็จนั่นเอง ทั้งสองเราได้ทบทวนเหตุการณ์ ครั้งที่สองที่เกิดขึ้นในบ้านและเวลาพบเห็นก้อนหินนั้นก็เป็นเวลาหลังจากเหตุเกิดไม่กี่วันเช่นเดียวกัน เพื่อคลายความสงสัย จึงตกลงกันว่าต้องนำไปถามท่านครูบาชัยวงศาพัฒนา เทพเจ้าของชาวเขา เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน จะดีที่สุด เรารอจนลุถึงวันแรม 8 ค่ำ เดือน 6 (แปดเหนือ)

วัดพระธาตุดอยกวางคำ มีงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุ ข้าพเจ้าและภรรยา พร้อมด้วยพระอธิการอมร เตชะปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดจริญญาวนารามได้พร้อมใจกันำพระอรหันตธาตุ 8 องค์ และลูกแก้วประหลาดนี้ รวมเป็น 9 องค์ ไปกราบนมัสการเรียนถามท่านครูบาชัยยะวงศ์ษา ครูบาเจ้าท่านรับไปพิจารณาแล้วหลับตาครู่หนึ่ง ท่านจึงบอกว่า ทั้งหมดนี้มิใช่ก้อนหินแต่เป็นพระธาตุทั้งสิ้น ยกเว้นองค์สุดท้ายท่านแกล้งทำเป็นนิ่งหันไปอมเมี่ยงสูบบุหรี่จนข้าพเจ้าต้องทวงถามว่า แล้วองค์สุดท้ายกลมๆ นี่ละครับเป็นพระธาตุของใคร ท่านหันกลับมามองหน้าข้าพเจ้าแล้วอมยิ้มนิดๆ (แต่ที่อยากรู้จริงๆก็คือองค์สุดท้ายว่าคืออะไรกันแน่) ครูบาเจ้าได้บอกว่า นี่คือพระธาตุของพระพุทธเจ้า แต่เป็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อนโน้นไม่ใช่องค์นี้ เรียนถามท่านอีกว่า ชื่อว่าพระธาตุอะไรครับ ท่านว่า 'พระธาตุแสงแก้ว' 'แล้วมาอยู่ที่บ้านผมได้อย่างไร' ท่านตอบว่า 'พระธาตุนี้ศักดิ์สิทธิ์มากท่านจะลอยไปในอากาศ มีแสงสว่างขาวนวลสวยงาม อย่างที่คนทั้งหลายเห็นกันว่าพระธาตุเสด็จให้บูชารักษาไว้ให้ดี วันนั้นเราทั้งสามดีใจมากที่หายข้องใจและมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาอยู่ด้วย

จากนั้นมาอีก 2 ปี ในวันที่ 23 เมษายน 2538 เป็นวันคล้ายวันเกิดของครูบาท่าน พวกเราทั้งสามคนได้นำพระธาตุไปวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม และเรียนถามท่านเพิ่มเติมว่า 'จะให้กระผมทำอย่างไร?' ท่านตอบว่าให้บูชารักษาให้ดี และให้สร้างพระเจดีย์ไว้ประดิษฐานในวัด ถามท่านว่า 'กระผมเป็นครูบ้านนอกยากจนเช่นนี้จะมีปัญญาไหนมาสร้างพระเจดีย์ได้' ท่านตอบว่า 'ท่านมาหาเราก็เพราะว่าเราสร้างได้ แต่ตอนนี้ไม่ต้องทุกข์ใจให้บูชาไว้ร่มเย็นดี อีกหน่อยจะมีผู้มีบุญที่เคยเป็นเจ้าของเก่าเขาจะพากันร่วมสร้างเอง' ท่านบอกด้วยเมตตายิ่ง และต่อมาครูบาเจ้าได้เดินทางชี้จุดที่จะสร้างพระเจดีย์ให้ที่อารามจริญญาวนารามด้วยองค์ท่านเอง

จากวันนั้นจวบจนเดือนเมษายน 2548 ได้มีพระสมุห์สง่า สนตจิตโต ลูกศิษย์ของท่าน ครูบาเจ้าได้เดินทางมาหาข้าพเจ้าที่บ้านและได้ขอดูพระธาตุ อีก 1 เดือนต่อมา วันที่ 15 พฤษภาคม 2548 พระสมุหสง่า สนตจิตโต ได้นำแบบพระธาตุที่ได้ออกแบบเองและมาเป็นประธานฝ่ายส่งฆ์เริ่มดำเนินการก่อสร้างและข้าพเจ้าเป็นฝ่ายฆราวาสควบคุมดูแลการสร้าง โดยมีทุนเริ่มต้นเพียง 1 หมื่นบาทเท่านั้น จากนั้นท่านได้ชักนำท่านสัตวแพทย์ สุรจิต ทองสอดแสง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านเทคโนโลยีกรมปศุสัตว์เป็นประธานฝ่ายอุปถัมภ์การก่อสร้าง

(สำหรับองค์พระธาตุนั้น ท่านผู้รู้หลายท่านได้พิสูจน์ทดสอบเล็งญาณเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นพระธาตุของพระพุทธกัสสป พระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 นั่นเอง)

อาจารย์จรูญ อาจารย์พาณี สุริยวงศ์

12 กรกฎาคม 2551

นอกจากองค์พระธาตุที่ได้ฉลองไปแล้ว ยังมีการพัฒนาอื่นๆเกี่ยวกับเป็นวัดที่ครบถ้วน ยังมีโอกาสที่ท่านสาธุชนจะร่วมบุญกุศล ผ่านไปที่ท่านพ่อครูจรูญ ที่ดูแลการก่อสร้างมาตั้งแต่ต้น และประกาศให้พระ เทพ พรหม เทวดา ทั้งหมด ที่พระธาตุแสงแก้วได้ร่วมโมทนากับการทำกุศลของเรา ให้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เช่นหลวงปู่ดู่ บอกไว้ว่า เองนึกถึงข้าครั้งหนึ่ง ข้าคิดถึงเองไปกลับ 7 เที่ยวเป็นต้น หลวงปู่ไม่ได้นึกถึงเราเปล่าๆร่วมโมทนาบุญและช่วยส่งเสริมเราให้ทำสิ่งเป็นประโยชน์ได้คล่องตัวและรวดเร็วเพิ่มขึ้น เมื่อเราขอและแจ้งวัตถุประสงค์ กับท่านผู้เจริญทุกท่าน หลายๆท่านอาจรู้จักคุ้นเคยกับเราในชาตินี้มาก่อน จะได้เกื้อกูลช่วยเหลือกันต่อๆไป พ่อครูใช้ บ/ช ธนาคารกรุงไทยสาขาลำพูน: 511-1-53974-3 โทร 053-975189 กรุณาเรียนท่านว่ารู้มาจากเว็บนี้ ขอมีส่วนร่วมสร้างพระธาตุแสงแก้วด้วย

ท่านสาธุชนได้มาไหว้พระธาตุกันแล้ว ได้รับโอกาสใหม่ๆเพิ่มขึ้น ในด้านจิตใจ ส่วนในทางกายใจที่ยังต้องทำงานเพื่อยังชีวิตต่อไป พร้อมๆกับมาช่วยชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เนื่องด้วยประเทศไทยสูญเสียเงินรายได้ค่าใช้โทรศัพท์มือถือให้แก่ต่างชาติปีละประมาณ 500,000 ล้านบาท โลกยุค Transformation ทุกคนที่ใช้มือถืออยู่แล้วสามารถเข้ามารวมพลังสามัคคีช่วยชาติประหยัดเงินมหาศาลดังกล่าว โดยเข้ามาร่วมใช้อุปกรณ์ ที่ SSN โดยท่านประธานบริษัท ท่านพลเอก พิเษฐ์ วิสัยจร ได้ลงทุนติดตั้งระบบการตลาดอีเล็คโทรนิส์ เอาไว้ให้ทุกๆใช้พร้อมแล้ว ลงรายละเอียดได้ที่ ลิงค์นี้ ครับ

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

ความในใจ

ความในใจ

เหลือบเห็นทีแรก มองเห็นว่าตั้งชมรมพระโพธิสัตว์ ยังนึกว่าชมรมพระโพธิสัตว์ยุคดิจิทอล ทันสมัยทันยุคจริงๆ อ่านอีกทีไม่ใช่เป็นประวัติพระบรมโพธิสัตว์ 'มาตังคบรมโพธิสัตว์'

แต่อย่างไรก็ตาม ยังคิดว่าบรรดาผู้ยังมุ่งสายพระโพธิสัตว์ มีภารกิจเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่จะขอเสนอเอาไว้ให้บรรดาพระโพธิสัตว์ทุกท่านได้รับไปพิจารณา และหากเห็นด้วย ว่าเอาละ จะเพิ่มบารมีในการช่วยเหลือประเทศชาติ โดยให้บรรดาผู้ใช้มือถือทุกค่าย ได้มีโอกาสใช้ 3.9G กับ SSN ซึ่งมีท่านพลเอก พิเชษฐ์ วิสัยจร เป็นประธาน กันให้เต็มประเทศ ก่อนสิ้น พ.ค. 2555

โดยบรรดาท่านพระโพธิสัตว์ทุกท่าน มาทำงานง่ายๆ บอกต่อเพื่อนๆผู้ใช้มือถือออกไปอีกคนละ 10 ในแต่ละสัปดาห์

โดยมีข้อแม้ว่าเมื่อเข้าใจวัตถุประสงค์ของการช่วยกันป้องกันเม็ดเงินไทยไหลออกนอกปีละ 500,000 ล้านบาทแล้ว มารักษาเงินค่ามือถือทั้งประเทศนี้ ให้หมุนเวียนอยู่ในประเทศ ให้ลูกหลานไทยสบายขึ้น นำค่าการตลาดเดือนละประมาณ 8,000 ล้านบาทมาแบ่งปันระหว่างผู้บริโภค

โดยผู้ทราบข่าวพาตนเองและครอบครัวมาเข้าระบบกับ SSN ให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงนำไปบอกต่อเพื่อนๆอีก 10 คน จะได้มาอยู่ทีมเดียวกัน ทำภารกิจชาติให้ลุล่วงต่อไป

และขอให้บรรดาพระโพธิสัตว์ทุกท่านทั้งกายเนื้อและกายพลังงานก็ตามมาระดมพล ช่วยทำภารกิจวาระแห่งชาติครั้งนี้ให้ลุล่วง เพื่อสร้างสมบารมีของแต่ละท่านร่วมกันต่อไป ข้าพเจ้าขอร่วมโมทนาด้วยทุกๆวัน

มาลงรายละเอียดที่ http://ainews1.com/article831.html
และขอให้พระโพธิสัตว์ทุกท่านถือว่าวาระแห่งชาติกับ 3.9 G เป็นเรื่องเร่งด่วนแห่ง ปี 2555

ผู้เสนอวาระ
สมศักดิ์ อรรถวรรณ P.E.774
http://www.ainews1.com